"สมชาย" ปูด ส.ส.พรรคใหญ่จัดงานเลี้ยงผู้สมัคร

2024-06-10 13:49:57

 "สมชาย" ปูด ส.ส.พรรคใหญ่จัดงานเลี้ยงผู้สมัคร

Advertisement

"สมชาย"ยันมีการขนคนไปสมัคร ส.ว.   ปูด ส.ส.พรรคใหญ่จัดงานเลี้ยงผู้สมัคร  

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.67  นายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวถึงการเลือก ส.ว.ระดับอำเภอ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา ว่า  ยืนยันว่ามีขบวนการขนคนไปสมัคร ส.ว. ได้ดำเนินการสำเร็จลุล่วงไปแล้ว หลักฐานปรากฏได้จากการตรวจลงคะแนนทุกอำเภอทุกกุล่ม ซึ่งจะพบว่ามีคนได้คะแนน 0 คะแนนเยอะมาก ซึ่งช่องว่าเกิดจาก พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2561 ที่บอกว่า ผู้สมัครเลือกตัวเองก็ได้ไม่เลือกตัวเองก็ได้ จึงทำให้เกิดขบวนการขนคน คน 25,000 คน ที่คาดการณ์ว่า ขนมาเพื่อใช้จ้างวาน เกณฑ์มาเลือก ได้กระทำการเต็มที่แล้ว โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระดับอำเภอ ไม่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติ และประสบการณ์ 10 ปี จริง ปล่อยให้ประกาศ กกต.ว่าลักษณะอื่นทำนองเดียวกัน เข้ามาสมัครได้ ซึ่งคนเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาเพื่อเป็น ส.ว. ได้กระทำการสำเร็จคือเป็นผู้มาเลือก ส.ว. ซึ่งทำให้ได้คะแนนที่ออกมาบิดเบี้ยว ในบางกลุ่มจังหวัด ก็จะเห็นประมาณ 5 คะแนน มี 3-4 คน ที่เกาะเป็นกลุ่ม บางกลุ่ม 8-10 คะแนน ซึ่งชัดเจน ดังนั้น กฎหมายที่เปิดช่องว่างคือพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในอนาคต

นายสมชาย กล่าวต่อว่า กระบวนการเลือก ส.ว.ขั้นที่ 1 น่าจะมีปัญหา ส่วนบุคคลที่รับจ้างมาหายไปแล้ว 2 หมื่นกว่าคน ก็ไม่ได้หมายความว่าบุคคลที่เหลืออยู่จะฮั้วหมด อาจจะมีการหลุดรอดออกมาได้ ดังนั้น ต้องจับตาต่อในการเลือกระดับจังหวัด ซึ่งจะปรากฎเห็นชัดขึ้นว่าจะมีการฮั้วบล็อกโหวตหรือไม่ ซึ่งตรงนี้กลุ่มการเมืองและกลุ่มที่จัดตั้งเท่านั้นที่จะผ่านเข้ารอบ และเมื่อถึงระดับประเทศ ก็จะถึงบางอ้อเองว่า คนที่ได้ ส.ว.มาอย่างไร ซึ่งตนไม่ได้กล่าวหาคนที่มาด้วยความบริสุทธิ์ แต่ยืนยันว่าถ้าไม่ได้เกณฑ์หรือจัดตั้งมา ก็น้อยคนที่ขนะเข้ามาได้

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่ามีหลักฐานการนำโพยเข้าคูหาได้มาอย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า มีคนส่งตัวอย่างมาให้ดูว่าเขาไปซ้อมกันที่ไหน เป็นรูปให้กาหมายเลข 3 หมายเลข 6 ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับ กกต.ที่มีหน่วยสืบสวนสอบสวนทำงานหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาพบว่าจุดอ่อน คือไม่พบว่ามีการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติ และปล่อยให้เข้ามา ซึ่งในทางการข่าวถ้าจะจับคนร้ายต้องดำเนินการตั้งแต่ต้นทาง ต้องสืบไปที่หมู่บ้านและตำบล ว่ามีการขนคนเก็บบัตรประชาชน ออกใบรับรองแพทย์โดยที่ไม่ได้ตรวจหรือไม่ ซึ่งรูปถ่ายก็เห็นว่าเป็นกระบวนการ แต่ กกต.บอกว่าไม่พบกระทำความผิด ซึ่งตนเห็นว่าไม่ได้ตรวจจะเห็นอย่างไร โดยตนจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการ

เมื่อถามย้ำว่า หลักฐานที่ได้มาสามารถเอาไปร้องได้หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า อยู่ที่ผู้ร้อง ซึ่งปัญหาขณะนี้ ผู้ร้องมีสิทธิ์ร้องใคร ถ้าพบการทุจริตผู้มีสิทธิ์ร้องคือ ผอ.กกต.อำเภอ แต่ ผอ.กกต.อำเภอ ปล่อยออกมาหมด ทั้งที่กระบวนการทุจริต มีตั้งแต่ก่อนสมัคร ที่ปล่อยให้ขบวนการจับจ้าง 2 หมื่นกว่าคน ขนปิ๊กอัพใส่สูทปลอม บัตรตรวจสุขภาพปลอม มีการจัดจ้างเข้ามาตั้งแต่ระดับอำเภอ เช่น ที่ จ.มุกดาหาร มีหมอไปร้องว่า อสม.ไม่มีสิทธิ์สมัคร แต่ศาลบอกว่าผู้ร้องไม่มีอำนาจ ซึ่งก็ใช่ เพราะกฎหมายเขียนไว้ว่าผู้ร้องคือ ผอ.การเลือกตั้ง

"นอกจากนั้นยังมีผู้ร้องว่าบางจังหวัดในภาคอีสานมีการจัดเลี้ยงก่อนลงสมัคร ซึ่งเรื่องนี้มีการส่งให้ประธานรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว และร้องมาที่ผมด้วย ว่ามี ส.ส. 2 คน ได้จัดงานเลี้ยงผู้สมัคร ส.ว.ซึ่งทราบว่า เป็น ส.ส.พรรคการเมืองใหญ่ เพราะถ้าไม่ใหญ่ไม่กล้าทำ ใหญ่ทั้งแผ่นดิน อย่างไรก็ตามหากเรื่องงนี้ประธานรัฐสภา เอาจริงในการตรวจสอบก็จะนำไปสู่การผิดจริยธรรมของ ส.ส. และอาจจะนำไปสู่การยุบพรรคได้"นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวต่อว่า เราคงไปเบรกการกระทำอะไรไม่ได้ เรามีหน้าที่ตรวจสอบก็ตรวจไป ใครทำทุจริต วันหน้าก็ต้องรับคดีความไป และคงจะเห็นภาพชัดเจนว่า การเลือก ส.ว. ที่เราประสงค์ จะทำให้มี ส.ว.ที่ดีทั้ง 20 กลุ่ม เกิดโมฆียะตั้งแต่ต้นแล้ว และตนเชื่อว่าไปต่อยาก และถ้า กกต.ทำหน้าที่ของตัวเองสัก ร้อยละ 90 ก็เจอแล้ว ขนาดตนทำหน้าที่ กมธ. แค่ กมธ.ยังเจอเลย แต่ กกต.แถลงแค่ว่าเรียบร้อย แล้วเรียบร้อยใคร เรียบร้อยโรงเรียนวัวเท่านั้น