"ไอติม" สังเกตการณ์เลือก ส.ว.เขตจตุจักร

2024-06-09 16:39:03

"ไอติม" สังเกตการณ์เลือก ส.ว.เขตจตุจักร

Advertisement

"ไอติม" สังเกตการณ์เลือก ส.ว.เขตจตุจักร มองคนสมัครน้อย เลือกกันเองแข่งขันไม่เข้มข้น แนะ กกต.  เร่งสอบเรื่องฮั้ว หวั่นกระทบไทม์ไลน์ประกาศผล

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.67 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือก ส.ว.ระดับอำเภอ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทร์เกษม เขตจตุจักร  กทม. 

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า กมธ.ได้ติดตามกระบวนการเลือก สว.ชุดใหม่อย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายอยากให้กระบวนการคัดเลือก ส.ว. ดำเนินการด้วยความราบรื่น โปร่งใสเป็นไปตามกรอบเวลา และประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด โดยวันนี้ กมธ.ได้กระจายตัวไปสังเกตการณ์ทั่วประเทศ เหตุผลที่ตนเองตัดสินใจมาสังเกตการณ์ที่เขตจตุจักร เพราะมีผู้สมัคร ส.ว. จำนวนมาก เป็นหนึ่งใน 3 เขตของกรุงเทพ ที่มีผู้สมัครเกิน 90 คน  ตนมีข้อเรียกร้องถึง กกต. 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.อยากเห็นการจัดสถานที่สังเกตการณ์ที่ใกล้ชิดกว่านี้ เขตจตุจักร แม้จะมีสถานที่สังเกตการณ์ แต่การสังเกตการนับคะแนนและผลการนับคะแนนยังทำได้ยากมาก ต้องติดตามผ่านกล้อง CCTV ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพ และเป็นการเผยแพร่ภาพเพียงอย่างเดียว จึงเรียกร้องไปยัง กกต.ปรับปรุงให้ผู้สังเกตการณ์และประชาชนเข้าถึงกระบวนการได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้นในการเลือก ส.ว. ระดับจังหวัดทั้งนี้ได้รับรายงานว่าการจัดสถานที่สังเกตการณ์ในการเลือกระดับอำเภอ แต่ละพื้นที่แตกต่างกัน บางที่สามารถดูกระบวนการนับคะแนนและเอกสารหน้าที่เลือกได้เลย บางแห่งมีพื้นที่จำกัดและเข้าไปด้านในที่เลือกไม่ได้ บางพื้นที่ต้องดูผ่านกล้องวงจรปิดอย่างเดียว

นายพริษฐ์ กล่าวว่า 2.มาตรฐานการปฎิบัติในแต่ละหน่วยเลือกไม่เหมือนกัน เช่น การจับสลากแบ่งสาย แนวปฏิบัติการพูดคุยแนะนำตัวระหว่างผู้สมัคร และ 3.คงแก้ไม่ทันแล้วแต่ต้องถอดบทเรียน เพราะผู้สมัครในภาพรวมมีจำนวนน้อย 4 หมื่นกว่าคน ทำให้บางกลุ่มอาชีพไม่มีผู้สมัคร บางกลุ่มมีผู้สมัครไม่เกิน 5 คน ไม่ต้องคัดเลือกกัน การแข่งขันจึงไม่เข้มข้น

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ส่วนข้อครหาในการจัดจ้างคนมาเลือกเพื่อฮั้ว ถือเป็นข้อร้องเรียนที่ได้รับเข้ามาเรื่อย ๆ ในคณะกรรมาธิการ ซึ่งมีหลายระดับร้ายแรงสุดถึงขั้นว่าจ้างให้คนมาเลือกตนเอง รองลงมาคือการจัดตั้งเครือข่ายในกลุ่มคนที่รู้จักเพื่อแลกคะแนนเสียง ทั้งหมดถือเป็นความผิดตามกฏหมาย เฉพาะหน้าอยากให้ กกต. ดำเนินการอย่างจริงจังและรวดเร็วเพื่อค้นหาข้อเท็จจริง และต้องไม่ให้กระทบต่อการเลือก ส.ว.ชุดใหม่ ในระยะยาวส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการเลือก ส.ว.ในระบบนี้ จึงตั้งคำถามว่าจำเป็นต้องมีวุฒิสภาหรือไม่ เพราะหลายประเทศทั่วโลกที่เป็นรัฐเดี่ยว มีระบบรัฐสภาก็ใช้ระบบสภาเดียว มีเพียงสภาผู้แทนราษฎร หากจะมี สว.ที่มีอำนาจสูงร่วมพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ รับรองตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระก็ควรมาจากการเลือกตั้งที่ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่ใช่คัดเลือกกันเองระหว่างผู้สมัคร ซึ่งมีอุปสรรคเรื่องอายุ และค่าทำเนียมการสมัครที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างไม่เต็มที่

เมื่อถามว่า ส่วนจะได้  ส.ว.ที่ตอบโจทย์หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับโครงสร้างและที่มาของ ส.ว. หวังว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายในการเมืองไทย การออกแบบรัฐสภาที่ตอบโจทย์จะถูกพูดคุยในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประเทศไทยจำเป็นต้องมี ส.ว.หรือไม่ หากมีจะต้องออกแบบโครงสร้างอำนาจหน้าที่อย่างไรให้สอดคล้อง

นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนท่าทีของ กกต.เกี่ยวกับเรื่องการฮั้ว กกต.ควรเอาจริงเอาจัง จัดสรรบุคลากรให้เพียงพอเพื่อสืบค้นข้อเท็จจริงให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยไม่กระทบภาพรวมในการคัดเลือก ส.ว. ให้เป็นไปตามปฏิทิน อย่างไรก็ตามคณะกรรมาธิการได้รับรายงานเรื่องการฮั้ว เช่น รูปที่ใช้ในการสมัครดูเหมือนเป็นสถานที่เดียวกัน ทั้งหมดเป็นเพียงข้อสังเกต ยังไม่ด่วนสรุปว่ามีการจัดตั้ง ท้ายสุด กกต.ต้องเอาจริงเอาจังกับการสืบค้นข้อเท็จจริง โดยไม่กระทบต่อปฏิทินในการคัดเลือก ส.ว.