ครม. ไฟเขียวงบกลาง 1.22 แสนล้านกระตุ้นเศรษฐกิจ

2024-06-05 01:05:24

ครม. ไฟเขียวงบกลาง 1.22 แสนล้านกระตุ้นเศรษฐกิจ

Advertisement

ครม. เห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 122,000 ล้านบาท สำหรับเป็น งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.64  นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติให้ความเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามที่สำนักงบประมาณ (สงป.) เสนอ จำนวน 122,000 ล้านบาท สำหรับเป็น งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ โดยมีแหล่งเงินจากการจัดเก็บรายได้ที่เดิมไม่ได้กำหนดไว้ในประมาณการเพิ่มเติม จำนวน 10,000 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 112,000 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตามที่ ครม. มีมติเมื่อวันที่ 23 เม.ย.67 เห็นชอบในหลักการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โดยใช้จ่ายจาก 3 แหล่งเงิน ได้แก่ (1) การบริหารงบฯ ปี 67 จำนวน 175,000 ล้านบาท (2) การดำเนิการผ่านหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท และ (3) งบประมาณ ปี 68 จำนวน 152,700 ล้านบาท และมีมติเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 เห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 68-71) ฉบับทบทวน ครั้งที่ 2 ประกอบกับตามปฏิทินงบประมาณ เพิ่มเติมปี 67 กำหนดให้ ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบนโยบายงบประมาณ วงเงินงบประมาณ และโครงสร้างงบประมาณ  เพิ่มเติมปี 67 ในวันที่ 4 มิ.ย.67

สำนักงบประมาณ ได้ประชุมหารือเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ. วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 61 โดยกำหนดวงเงินงบประมาณ เพิ่มเติมปี 67 มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 23 เม.ย.67 สำหรับการดำเนินการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ของรัฐบาล โดยที่ประชุมได้กำหนดงบประมาณ เพิ่มเติมปี 67 จำนวน 122,000 ล้านบาท สำหรับเป็นงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ โดยมีแหล่งเงินจากการจัดเก็บรายได้ที่เดิมไม่ได้กำหนดไว้จำนวน 10,000 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 112,000 ล้านบาท

การดำเนินการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet จะต้องลงทะเบียนผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการให้ทันภายในปีงบประมาณ 67 เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณ  เพิ่มเติมปี 67 ได้ทันภายในวันที่ 30 ก.ย.67 และสอดคล้งตาม ม. 21 ของ พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลัง ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการทันภายในปีงบประมาณ 2567 จึงอาจพิจารณาผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการที่เป็นประชาชนกลุ่มเปราะบางผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14.98 ล้านคน ตามขั้นตอนในโอกาสแรกก่อน

ทั้งนี้ วงเงินงบประมาณ เพิ่มเติมปี 67 จำนวน 122,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับงบประมาณ ปี 67 จำนวน 3,480,000 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,602,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ  66 จำนวน 417,000 ล้านบาท (ร้อยละ 13.1) ซึ่งเท่ากับกรอบวงเงินตามแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 68-71) ฉบับทบทวน ครั้งที่ 2 และสำหรับงบลงทุน และงบประมาณ ชำระคืนต้นเงินกู้ มีสัดส่วนอยู่ภายในกรอบที่กำหนดตาม พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 61