รวบ "มด" เมียโหดจ้างงานฆ่า "เสี่ยต้น"

2024-06-03 17:19:40

รวบ "มด" เมียโหดจ้างงานฆ่า "เสี่ยต้น"

Advertisement

 รวบ "มด" เมียโหดจ้างวานฆ่า "เสี่ยต้น" เจ้าของธุรกิจ รร.สอนสปานวดแผนไทย พร้อมผู้ต้องหาอีก 2 ราย ส่วนมือปืนอยู่ระหว่างหลบหนี

จากกรณีวันที่ 8 เม.ย.67 เวลาประมาณ 23.35 น. เกิดเหตุคนร้ายเป็นชาย จำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ประกบข้างรถยนต์ของนายพิชิต  หรือ "เสี่ยต้น"  เจ้าของธุรกิจ รร.สอนสปาและนวดแผนไทย ดดยใช้อาวุธปืนพยายามฆ่านายพิชิต ในพื้นที่ สน.วังทองหลาง แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งทางนายพิชิตได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายกับพวกรายดังกล่าวตามกฎหมาย ต่อมาในวันที่ 15 เม.ย.67 นายพิชิตด้เดินทางกลับไปยังบ้านของภรรยาที่ จ.มหาสารคาม หลังจากนั่งทานอาหารและดื่มสุรากันที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว ในช่วงเช้าของวันที่ 16 เม.ย.67 นายพิชิตก็เสียชีวิตที่หน้าบ้านโดยไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาญาติของนายพิชิตสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิต และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนนั้น


เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.67 ผู้สื่อขาวรายงานว่า จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน สามารถนำไปสู่การจับกลุ่มคนร้ายในคดีนี้ประกอบด้วย  ผู้ต้องหาที่ 1 น.ส.วรรณวิภา หรือ มด ภรรยาของผู้เสียชีวิต อายุ 37 ปี เป็นผู้ใช้จ้างวาน และชี้เป้า โดยถูกจับได้ภายในห้องพักของคอนโดหรูย่านรามคำแหง ทั้งนี้ผู้ถูกจับที่ 1 ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา  ผู้ต้องหาที่ 2 นายสาโรจน์ อายุ 25 ปี ทำหน้าที่เป็นธุระจัดหา อาวุธปืน ที่พัก พาหนะ และสถานที่เตรียมการ ถูกจับกุมได้ ภายในบ้านย่านซอยรามอินทรา 62 จากการสอบถามนายสาโรจน์ให้การภาคเสธว่าก่อนเกิดเหตุ ได้มี น.ส.วรรณวิภา  ติดต่อและจ้างวานให้เป็นธุระจัดหาโดยได้รับเงินโอนจาก น.ส.วรรณวิภา  เป็นจำนวนเงิน 70,000 บาท และได้โอนต่อให้แก่มือปืนที่ก่อเหตุยิงในคดีนี้    ผู้ต้องหาที่ 3 นายวีรภัทร อายุ 25 ปี ให้การรับว่าทำหน้าที่เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้มือปืน ถูกจับกุมได้ ภายในบ้านพัก หมู่บ้านเคหะนวมินทร์ จากการสอบถามนายวีรภัทร  ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ขี่รถ จยย.พามือปืนไปก่อเหตุพยายามฆ่า "เสี่ยต้น" จริง โดยได้รับค่าจ้างจากมือปืนเป็นเงินสดจำนวน 4,000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติการกระทำผิด พบว่า นายวีรภัทร เคยถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน "เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 โดยผิดกฎหมาย" ที่ สภ.องครักษ์ จ.นครนายก เมื่อปี 2559 ผู้ต้องหาที่ 4 นายณัฐพล อายุ 25 ปี ทำหน้าที่รับว่าจ้างงาน  มือปืน (อยู่ระหว่างหลบหนี) 

ทั้งนี้เมื่อช่วงปลายเดือน มี.ค.67 น.ส.วรรณิภา หรือ มด ได้เริ่มหามือปืนเพื่อก่อเหตุ ต่อมาได้เริ่มมีการติดต่อกับนายณัฐพล  มือปืน และนัดหมายกัน โดยวันที่ 1 เม.ย.67 นายณัฐพล  ได้เดินทางจากต่างจังหวัดเข้ามาใน กทม. โดยนัดพบกับ น.ส.วรรณิภา  จากนั้น น.ส.วรรณิภา ได้โอนเงินให้กับนายณัฐพล  ตั้งแต่วันที่ 1-7 เม.ย.67 จำนวน 45,500 บาท และรับเป็นเงินสดอีกภายหลัง รวมเป็นจำนวนกว่า 300,000 บาท โดยการเดินทางมา กทม. เพื่อก่อเหตุของนายณัฐพล ในครั้งนี้นั้น มีนายสาโรจน์  ให้การช่วยเหลือ เป็นธุระจัดหาสิ่งต่างๆที่ใช้ก่อเหตุให้ ซึ่ง น.ส.วรรณิภา  ได้โอนเงินจำนวน 33,000 บาท ให้กับนายสาโรจน์ เป็นค่าจ้างในครั้งนี้ด้วย ระหว่างนั้น น.ส.วรรณิภา  และนายณัฐพล  มือปืน ได้มีการติดต่อกัน โดย น.ส.วรรณิภา  จะคอยแจ้งความเคลื่อนไหวให้นายณัฐพลมือปืนทราบอย่างต่อเนื่อง เมื่อนายณัฐพล มือปืนทราบความเคลื่อนไหวของนายพิชิต ก็ได้มีความพยายามวางแผนเพื่อลงมือก่อเหตุประมาณ 2 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ต่อมา นายณัฐพลฯ มือปืน กับ น.ส.วรรณิภา ได้ร่วมกันวางแผนล่อให้ นายพิชิตเดินทางมายังโรงเหล้าแสงจันทร์ เพื่อให้มือปืนลงมือก่อเหตุ


จากนั้นในวันที่เกิดเหตุ (8 เม.ย.67) น.ส.วรรณวิภา   ได้นัดหมายนายพิชิต หรือเสี่ยต้น ให้ไปที่ร้านอาหาร เมื่อเสี่ยต้นไปถึงแล้ว น.ส.วรรณิภาได้ยกเลิกนัด นายพิชิตจึงได้เดินทางกลับบ้าน และต่อมาไม่นานก็ถูกคนร้ายรถ จยย.ใช้อาวุธปืนประกบยิง นายพิชิตจึงเข้าแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง จากการสืบสวนติดตามเส้นทางก่อเหตุพบว่าหลังก่อเหตุยิงคนร้ายขี่รถ จยย.หลบหนีเข้าไปในซอยรามอินทรา 62 ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่า นายสาโรจน์ มีบ้านพักอยู่ภายในซอยดังกล่าว หลังจากเกิดเหตุ น.ส.วรรณิภา ได้มีการนัดหมายให้ นายพิชิตไปที่บ้านเกิดของ น.ส.วรรณิภา ที่ จ.มหาสารคาม ในช่วงวันหยุดเสงกรานต์ เพื่อไปพูดคุยเรื่องปัญหาครอบครัว โดยน.ส.วรรณิภา ยังบอกด้วยว่า หากนายพิชิตไม่เดินทางมาจะตัดขาดความสัมพันธ์ และ น.ส.วรรณิภาจะขายทุกอย่างให้หมด

ต่อมา วันที่ 15 เม.ย.67 หลังจากที่นายพิชิต มาถึงที่บ้าน จ.มหาสารคาม ได้มีการล้อมวงดื่มสุรากัน ซึ่งมีพยานยืนยันว่า ในคืนนั้น นายพิชิต อยู่กับ น.ส.วรรณิภา เป็นคนสุดท้าย ก่อนที่จะพบว่า นายพิชิต เสียชีวิตในเช้าวันที่ 16 เม.ย.67 โดยหลังจากที่นายพิชิต เสียชีวิต น.ส.วรรณิภาพูดจาหว่านล้อมญาติทุกคน ว่าไม่ให้มีผ่าชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ทั้งที่ญาติได้ทักท้วงแล้วว่าเป็นการตายผิดธรรมชาติ แต่ น.ส.วรรณิภากลับมีการเร่งให้เผาศพทันที เป็นการพยายามทำลายหลักฐาน เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้ ทั้งนี้ น.ส.วรรณิภา หรือมด ได้เสนอผลประโยชน์และทรัพย์สินต่างตอบแทนให้กับญาติของนายพิชิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะได้ทำการสืบสวน ขยายผล หาตัวผู้มีส่วนร่วมและเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดนี้ที่เหลือทั้งขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณข้อมูล กองบัญชาการตำรวจนครบาล - บช.น. Metropolitan Police Bureau