"ก้าวไกล" จัดทำงบประมาณเงาปี 68

2024-05-08 01:00:03

"ก้าวไกล" จัดทำงบประมาณเงาปี 68

Advertisement


"ณัฐพงษ์"เผย "ก้าวไกล" จัดทำงบประมาณเงาปี 68  วางทีมก้าวไกล 30 คนอภิปราย  ห่วงตัดงบกลางไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 67 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ.2568 ช่วงกลางเดือนมิ.ย.นี้ว่า ได้รับแจ้งมาก่อนหน้านี้แล้ว จากการทำงานหลังบ้าน ในอนุ กมธ.งบประมาณปี 68 จึงได้เตรียมความพร้อม ตลอดเวลาและศึกษางบประมาณล่วงหน้า ไว้ครึ่งทางแล้ว ซึ่งหลังจากนี้มีเวลาอีกประมาณ 1 เดือน ที่อนุกรรมาธิการจะสามารถเรียกข้อมูลจากฝ่ายบริหาร ส่วนที่อยากได้ คือการเพิ่มงบประมาณ โดยเฉพาะตัวเลข ตาม พ.ร.บ.งบประมาณ เพราะที่ผ่านมาจะทราบก่อน เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้นจึงจะขอให้ ได้เร็วที่สุด

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการทำงานของกรรมาธิการ ติดตามงบประมาณ จะศึกษาการจัดทำงบประมาณ ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ โดยเฉพาะการจัดทำงบประมาณปี 68 เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลในการจัดทำ 100% เช่น งบประมาณ ที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเตือนภัย ที่มีความซ้ำซ้อนกันระหว่าง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ก็เป็นตัวอย่างที่กรรมาธิการได้ทำงานในเชิงรุก ให้การแก้ไขปัญหาประชาชน ไม่ซ้ำซ้อน ซึ่งได้ทำความเห็นส่งไปยังรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว หากยังไม่มีการแก้ไขก็จะถือว่ารัฐบาลบกพร่อง ฝ่ายค้านก็จะอภิปรายเต็มที่

ส่วนการเตรียมความพร้อมการอภิปรายของพรรคก้าวไกล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการ ประชุมภายในพรรค คาดว่าจะมีผู้ขออภิปรายประมาณ 20-30 คน ซึ่งขึ้นอยู่ที่วิป 3 ฝ่ายจะจัดสรรเวลา โดยเวทีอภิปรายงบประมาณปี 68 เป็นเวทีที่พรรคก้าวไกลได้เตรียมความพร้อมกรณีในอนาคต อาจได้เป็นรัฐบาลในอนาคต โดยได้จัดทำงบประมาณเงาหรืองบเงา ที่ลงไปทำการบ้าน เพื่อดูรายละเอียด งบประมาณของแต่ละหน่วยงานที่เสนอมา หากพบว่าไม่จำเป็น ในฐานะฝ่ายบริหารก็ควรจะต้องตัดออก เพื่อจัดสรรให้ในส่วนที่จำเป็น และตอบสนอง ตอบปัญหาของประเทศมากกว่า

นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามมีความกังวลในส่วนงบกลางของงบประมาณปี 68 ที่จะถูกนำไปใช้ในโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ซึ่งได้มีข้อสังเกตส่งกลับไปยังหน่วยงานแล้วว่ามีการตีความบิดเบือนทางกฎหมาย เพราะตามพ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังมีการระบุไว้ชัดเจนว่าสัดส่วนงบลงทุนต้องไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 20 และต้องไม่ต่ำกว่าส่วนที่ชดเชยการขาดดุล แต่พอมีการปิดงบปี 68 เพื่อนำไปทำในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จำนวน 1.5 แสนล้านบาท กลับมีการระบุว่างบดังกล่าว เป็นงบลงทุนจำนวน 80% จึงขอตั้งคำถามกลับไปยังรัฐบาลว่า รู้ได้อย่างไรว่าประชาชนจะนำ เงิน1 หมื่นบาทดังกล่าวไปใช้ในการลงทุน หรือใช้ในรายจ่ายประจำ ซึ่งเรื่องนี้ถ้ารัฐบาลเดินหน้าต่อแบบนี้โดยปราศจากการออกมาทำความชัดเจนให้เกิดขึ้นก็เสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมาย หากมีคนไปร้องในภายหลัง

ส่วนสิ่งที่ก้าวไกลจะจับตาในการจัดสรรงบประมาณปี 68 นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นปัญหาที่เคยได้ยินมาอยู่แล้วทุกปี แต่ปีนี้อาจจะมีความพิเศษคืองบประมาณของโครงการดิจิทัล วอลเล็ต รวมไปถึงงบประชาสัมพันธ์ภาครัฐ ที่รัฐบาลนำงบหลวงมาใช้ในการโปรโมทตัวเอง ซึ่งปัจจุบัน ปัญหาเหล่านี้ ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ขณะที่การจัดทำงบเงาของพรรคก้าวไกล จะเป็นการศึกษารายละเอียดงบที่ไม่จำเป็น ว่าควรจะนำไปทำอะไรที่จำเป็นมากกว่าด้วย