รัฐสภาใหม่งานงอกของบเพิ่ม 8,658 ล้าน

2018-03-29 18:05:30

รัฐสภาใหม่งานงอกของบเพิ่ม 8,658 ล้าน

Advertisement

เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำทีมแถลงปัญหาก่อสร้างรัฐสภาใหม่ ชี้ระบบไอทีออกแบบไว้เมื่อปี 2553 มูลค่า 3,000 ล้านบาทล้าสมัย ต้องจ้างออกแบบใหม่จำเป็นต้องเพิ่มงบประมาณกว่า 8,658 ล้านบาท อยู่ระหว่างขออนุมัติจาก ครม. ด้านบริษัทซิโน-ไทยฯจ่อฟ้องเรียกค่าเสียหายอย่างน้อย 1,600 ล้าน ปูดเพิ่มสร้างเสร็จปัญหาไม่จบ เจอค่าไฟสำรองเดือนละ 30 ล้าน

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่รัฐสภา นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย น.ส.พรรษมนต์ ไทยวัฒนานุกูล รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายพีระ นาควิมล ผอ.โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแถลงข่าวถึงโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่

น.ส.พรรษมนต์ กล่าวว่า ผู้ชนะการออกแบบสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ คือ กิจการร่วมค้าสงบ 1051 ได้ออกแบบระบบไอทีพื้นฐานของอาคารไว้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในปี 2553 อาทิ ท่อสาย ระบบ สวิตซ์ มูลค่า 3,000 ล้านบาท แต่ไม่รวมแอพพลิเคชั่นที่หมายถึงระบบการลงคะแนน การนับคะแนนในที่ประชุม ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ในยุคปัจจุบัน จึงจำเป็นจะต้องมีการจ้างบริษัท เมอร์ลิน โซลูชั่น ออกแบบใหม่ เพื่อทำเทคโนโลยีให้ทันสมัยขึ้นและสอดคล้องกับ Digital Parliament ในยุค 4.0 จึงจำเป็นต้องเพิ่มงบประมาณในการก่อสร้างด้านไอทีเทคโนโลยีสารสนเทศกว่า 8,658ล้านบาท




นายพีระ กล่าวว่า การต่อสัญญาบริษัท ซิโน-ไทยฯ นั้นเราไม่ได้อยากจะขยาย เพราะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทุกอย่างในแต่ละวันอยู่ที่วันละ 1 ล้านบาท มันเป็นการต่อสัญญาทั้งน้ำตา เพราะทำงานไม่ได้แต่มีค่าใช้จ่ายทุกวัน รวมเวลาที่ขยาย 1,400 วัน ก็ 1,400 ล้านบาท ด้านส่วนราชการเองก็ต้องเสียเงินค่าน้ำค่าไฟให้สำนักงานแต่ละที่ รวม 10 ล้านบาทต่อเดือน การต่อสัญญาจึงไม่เกิดผลดีทั้งต่อภาครัฐและเอกชน ส่วนจะดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหาย จากฝ่ายการเมืองฐานหมิ่น ประมาทหรือไม่นั้น เมื่อไรก็ตามที่เข้าเจตนาพิเศษคือ สร้างความเสียหาย หรือก่อให้เกิดความเกลียดชัง บริษัทคงไม่รีรอ

“สัญญา 900 วัน กับพื้นที่ก่อสร้างเกือบ 5 แสนตารางเมตร เป็นเรื่องที่ท้าทายหลักวิศวกรมาก เราไม่เคยคิดว่าจะเกิดปัญหาที่ สร้างความเสียหาย จนถึงขั้นต้องเตรียมการสำรองการขาดทุนไว้ 3,000 ล้านบาทซึ่งเป็นครั้งแรกของบริษัทที่ได้แจ้งสำรองกับทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนทางบริษัทซิโน-ไทย ก็เตรียมจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากสำนักงานเลขาธิการสภาฯ หากยังไม่จ่ายเงินค่าเสียหาย ในการขยายเวลาครั้งที่ 2 เป็นจำนวนเงิน 1,673 ล้านบาท ส่วนการต่อสัญญาครั้งที่ 3 จะเรียกเงินค่าเสียหายอีกเท่าไร จะต้องรอผลสรุปในเดือน เม.ย.นี้” นายพีระ กล่าว




นายพีระ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเมื่ออาคารรัฐสภาแห่งใหม่ก่อสร้างเสร็จแล้วก็ถือว่าทางบริษัท ซิโน-ไทยฯ เสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ก็ยังมีเรื่องที่น่ากังวลและต้องแก้ปัญหาในอนาคตคือการใช้ไฟฟ้าที่ขณะนี้ยังไม่มีการวางระบบถาวรเพราะต้องใช้การวางระบบถึง 4 เดือน ซึ่งจะไม่ทันสิ้นปี 2561นี้ ที่รัฐสภาจะเริ่มเปิดใช้ ซึ่งช่วงนั้นต้องแก้ปัญหาโดยการใช้ไฟฟ้าสำรองชั่วคราว โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 30 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งปริมาณการใช้ไฟฟ้าของรัฐสภาใหม่เทียบเท่ากับการใช้ไฟฟ้าของ 2 อำเภอ

ด้านนายสรศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีเวลาเหลืออีกไม่ถึง 1 ปี ที่จะต้องย้ายรัฐสภาในปัจจุบัน ที่ถนนอู่ทองในไปรัฐสภาแห่งใหม่ จึงมีความจำเป็นต้องของบประมาณเพิ่มเติมกับ ครม.จำนวน 8,658 ล้านบาท เพื่อให้การใช้งานอาคารมี ความสมบูรณ์ ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างรออนุมัติจาก ครม. ซึ่งการวางระบบไอซีที และโสตทัศนูปกรณ์ งานสาธารณูปโภคและงานระบบประกอบอาคาร ในอาคารต้องทำควบคู่กัน เพราะหากต้องมาทำสิ่งเหล่านี้ในภายหลังโดยต้องรื้อทุบจะทำให้เกิดความเสียหาย หากงบประมาณมาไม่ทันก็อาจต้องขอขยายเวลา ซึ่งผู้รับจ้างจะตกลงหรือยกเลิกยังไม่รู้ ทางบริษัท ซิโน-ไทยฯ เองก็เคยเรียกร้องสิทธิในการเรียกความเสียหายมาแล้วหลายครั้ง แต่ตนก็ยืนไปว่าไม่จ่าย ซึ่งที่ผ่านมาความล่าช้าที่ก่อให้เกิดความเสียหาย ทำให้การสร้างรัฐสภาใหม่ไม่เสร็จตามกำหนด