ส.ว.ห่วงผู้ลี้ภัยเมียนมาทะลักเข้าไทย

2024-04-09 14:18:02

ส.ว.ห่วงผู้ลี้ภัยเมียนมาทะลักเข้าไทย

Advertisement

ส.ว. ชี้สถานการณ์สู้รบในเมียนมา ต้องเฝ้าระวัง ห่วงหนีสงครามทะลักเข้าประเทศไทย

เมื่อวันที่ 9 เม.ย.67 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมวุฒิสภา มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณารายงานศึกษา เรื่อง ผู้หนีภัยสู้รบจากเมียนมาและผู้หนีภัยความไม่สงบจากเมียนมาในประเทศไทย ซึ่งกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา พิจารณาแล้วเสร็จ

นายถวิล เปลี่ยนสี ส.ว.ในฐานะอนุ กมธ.พิจารณาและติดตามสถานการณ์ระหว่างประเทศที่มีผลกระทบต่อประเทศไทย กล่าวรายงาตอนหนึ่งถึงสถานการณ์ผู้หลบหนีเข้าเมือง รวมถึงผู้ที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลไทยต้องรับภาระ ว่า กลุ่มคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทย 4-5 ล้านคนเป็นอย่างต่ำ ซึ่งมีทั้งกลุ่มแรงงานต่างด้าว กลุ่มผู้ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย และกว่า 40 ปีที่มีผู้หลบหนีเข้าเมือง บางกลุ่มประเทศไทยยังต้องแบกรับ เพราะปัญหาเกิดง่ายแต่แก้ไขยาก โดยเฉพาะการส่งกลับไปยังประเทศแม่ของผู้ลี้ภัย เช่น ในกรณีของม้งลาว

นายถวิล กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์สู้รบในเมียนมา พบว่าทหารเมียนมายึดพื้นที่ชายแดน ทำให้มีผู้หนีภัยสงครามในประเทศไทยกว่า 7.7หมื่นคน สำหรับข้อเสนอคือ ตั้งถิ่นฐานประเทศที่สามหรือแปรสภาพให้เกิดประโยชน์ของไทย เพื่อปิดศูนย์พักพิงใน 4 จังหวัดทั้งหมดได้ ทั้งนี้หลังสถานการณ์สู้รบ ปี65 พบว่ามีผู้หนีภัยสงครามจากเมียนมาอีก ซึ่งการประเมินพบว่าสามารถให้พำนักได้ชั่วคราวเพราะไม่เกิดการปิดพื้นที่ชายแดน ดังนั้นจึงสามารถส่งกลับได้ เพื่อแก้ปัญหาให้จบได้  สถานการณ์เมียนมาไม่แน่นอน ปัจจุบันเจอปัญหา 2 กระทบ ไม่ใช่ขัดแย้งระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมา กับชนกลุ่มน้อย ชาติพันธุ์แนวชายแดน และยังมีกลุ่มต่อต้านรัฐบาล รัฐบาลผลัดถิ่น มีการต่อสู้ที่เข้มแข็ง ดังนั้นสถานการณ์ไม่สงบ แต่การแก้ปัญหาผู้หนีภัย ที่วางรากฐานและบทเรียนแก้ปัญหาได้ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา 

จากนั้นได้ให้สมาชิกอภิปราย โดย พล.ร.อ.พัลลภ ศมิศานนท์ ส.ว.อภิปรายว่า ตนมองว่าการสู้รบในเมียนมาจะยังคงหนักหน่วง และคาดว่าจะมีผู้อพยพเข้ามาในประเทศ อีกทั้งเชื่อว่าการสู้รบจระหว่างรัฐบาลและชนกลุ่มน้อย จะเข้าสู่จุะผกผันได้ ดังนั้นฝ่ายความมั่นคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง รวมถึงประเมินทางแก้ระดับมหภาคด้วย เพื่อไม่ให้ไทยเป็นประเทศเดียวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบและเหตุการณ์สู้รบในเมียนมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการอภิปรายของส.ว. ได้แสดงความกังวลและห่วงใยต่อสถานการณ์สู้รบในพื้นที่เมียนมาที่คาดว่าจะกระทบในประเด็นสิทธิและเสรีภาพ รวมถึงประเทศไทย เจ้าหน้าที่ที่ดูแลศูนย์ผู้อพยพที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบร่วมด้วย จึงมีข้อเสนอไปยังรัฐบาลด้วยว่าควรบริหารจัดการผู้อพยพในศูนย์พักพิง