พปชร. ยื่นร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษล้านนาตะวันออก

2024-04-04 14:09:16

พปชร. ยื่นร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษล้านนาตะวันออก

Advertisement

พปชร. ยื่นร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษล้านนาตะวันออก มุ่งยกระดับความเจริญให้ ปชช.ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.67  นายอัคร ทองใจสด  ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะ ทีมสื่อสารภาคเหนือ กล่าวว่า นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส. พะเยา เขต 3 และนายอนุรัตน์ ตันบรรจง ส.ส.พะเยา เขต 2 ตัวแทนพรรค ได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษล้านนาตะวันออก พ.ศ. เพื่อบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เป็นกลไกการบริหารราชการพื้นที่ภาคเหนือตอนบนฝั่งตะวันออก 4 จังหวัดหรือกลุ่มจังหวัดล้านนา ประกอบด้วย จ.พะเยา จ.เชียงราย จ.น่าน และ จ.แพร่ เพื่อยกระดับการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพในพื้นที่ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญ เชื่อมโยงการค้าและการนำเข้าส่งออก มีทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงเป็นแหล่งต้นน้ำที่ สำคัญ จึงจำเป็นต้องมีกลไกการพัฒนาพื้นที่อย่างเป็นระบบ และเกิดความต่อเนื่อง สอดรับกับบริบทและศักยภาพเชิงพื้นที่ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวม กฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันไม่เอื้อต่อการพัฒนาพื้นที่ตามแนวทางดังกล่าว เพราะการส่งเสริมด้านการบริหารด้านเศรษฐกิจ การลงทุนและการอนุมัติอนุญาตตลอดจนการให้สิทธิประโยชน์ ยังเป็นการบริหารที่มีลักษณะรวมศูนย์ ขาดการส่งเสริมการกระจายโอกาสในเชิงพื้นที่ อีกทั้งการจัดทำระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ ยังขาดความต่อเนื่องและขาดความเชื่อมโยง ไม่เกิดการบูรณาการอย่างแท้จริง ส่งผลให้การพัฒนาไม่สามารถพัฒนาเชิงพื้นที่หรือกลุ่มจังหวัดได้อย่างเต็มศักยภาพ

นายอัคร กล่าวต่อว่า พรรค พปชร.มองเห็นถึงความจำเป็นต้องออกกฎหมายเฉพาะ เพื่อกำหนดเขตพัฒนาพิเศษล้านนาตะวันออก ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดล้านนาตะวันออก เพื่อให้มีการวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเหมาะสมและมีการบูรณาการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและเชื่อมโยงกัน ทั้งในและนอกพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษล้านนาตะวันออก มีประสิทธิภาพการบริการภาครัฐแบบครบวงจร รวมไปถึงกานกำหนดแผนงานด้านการพัฒนาพื้นที่นั้น ๆ อย่างมีเป้าหมาย และมีมาตรการส่งเสริมภาคเอกชนเข้ามีส่วนร่วมในกิจการหรือโครงการที่ได้รับอนุมัติในเขตพัฒนาเป็นการเฉพาะ จึงจำเป็นต้องตรา พ.ร.บ.นี้