หยุดพูดเหม็นขี้ฟัน !! "ป้าปูดอง" ปิดหูไม่อยากฟัง "จั๊กกะบุ๋ม" พ่นน้ำลาย

2024-04-03 00:05:54

หยุดพูดเหม็นขี้ฟัน !! "ป้าปูดอง" ปิดหูไม่อยากฟัง "จั๊กกะบุ๋ม" พ่นน้ำลาย

Advertisement

หยุดพูดเหม็นขี้ฟัน !! "ป้าปูดอง" ปิดหูไม่อยากฟัง "จั๊กกะบุ๋ม" พ่นน้ำลาย "หนุ่ม กรรชัย" อ่านคอมเมนต์ไร้คำชม ก่นด่าทุกคน 



สืบเนื่องจากดราม่า "แม่ค้าปูดอง" ขึ้นป้ายทวงเงินค่าสินค้าจาก "จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม" ตลกชื่อดัง เกือบ 3 แสนบาท ทำเอาตลกดังปรี๊ดแตกวิ่งเข้า สน.แจ้งความหมิ่นประมาทเจ้าหนี้ในทันใด สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนต่างสนใจอยากรู้ว่าเรื่องราวที่แท้จริงเป็นอย่างไร ทำไมแม่ค้าคนนี้ถึงทำสินค้าไปให้ตลกดังจำหน่ายโดยไม่ได้รับเงิน วันนี้ทีมงาน "โหนกระแส" ได้นำทั้งสองมาประจันหน้าเพื่อถกถึงประเด็นดังกล่าวอย่างหมดเปลือก !! 




โดย "แม่ค้าปูดอง" เจ้าของแผ่นป้ายไวนิลทวงหนี้ เปิดใจว่า ตกลงทำสินค้าให้ "จั๊กกะบุ๋ม" คือ "ปูนาดอง" ขายราคาทุน 80 บาท "อ่องมันปู" ราคา 100 บาท ส่งให้ตลกดังขาย 2 รูปแบบ แบบแรกให้ทางตลกดังตีแบรนด์ขาย อีกแบบคือให้ไลฟ์สดขายให้ "แม่ปูนา" (แม่ค้าปูดอง) แต่ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ "แม่ปูนา" บอกว่าไม่เคยได้เงินจากเขาสักแดงเดียว





ทั้งนี้ "แม่ปูดอง" บอกว่า "เราผลิตส่งให้เขา เขาไม่ตัดยอดคืนเลย เราลงบัญชีทบยอดไว้จนมันทะลุเป็นสองแสน พยายามทวง พยายามบอกให้เขาลำดับความสำคัญ เรารู้ว่าเขาลำบาก มีหนี้ต้องจ่าย แต่เขาก็ควรจะหักเงินมาคืนเราให้เราไปต่อทุน ทำของส่งให้เขา จนมาถึงเหตุการณ์ที่เขาจะไปออกบูท ที่ห้างเวสต์เกต ในงานของ "พ่อหม่ำ"  เขาบอกว่าเขาจะไปออกงานนี้ จะขายของได้แน่ จะมีเงินมาใช้เราแล้ว ขอให้เราทำของส่งให้เขาหน่อย นัดจ่ายเงินวันที่ 24 มีนาคม แต่จนถึง 26 มีนาฯ เขาก็ยังไม่จ่าย เราทวงแล้วทวงอีก เขาก็บ่ายเบี่ยง

จนวันที่เขาไปออกบูท เราไปซื้อเก้าอี้มานั่งดูเขาขายของ อยากรู้ว่าเขาขายได้จริงไหม พอมาถึงพบว่าเขาขายได้ ช่วงที่ "แม่ปูนา" ดูอยู่ประมาณ 4 ชั่วโมง เขาขายได้ยอดประมาณ 10,000 กว่าบาท เราก็เลยบอกว่า เอาอย่างนี้ เราขอทุน เพื่อจะเอาไปทำของ แล้วพรุ่งนี้เช้าจะเอามาส่งให้เขาขายตรงนี้ เขาตอบว่าผมไม่มีให้ แม่กลับไปก่อน ถ้ามีเงินเหลือเดี๋ยวค่อยให้ ซึ่งแม่ก็ไม่เชื่อเขา ก็ทวงเขา เขาก็ตอบมา 4 ครั้งว่า ไม่มี ไม่ให้ ไล่ให้กลับไป บอกว่า "ถ้าผมมีเดี๋ยวผมจะให้เอง" ระหว่างที่แม่กำลังเดินทางกลับ เขาก็พิมพ์ข้อความมาหาว่า เราไปคุกคาม ไปปั่นป่วน เค้นเพื่อจะเอาหนี้เขา เขาไม่โอเค เราก็คิดว่าเขาน่าจะมีเจตนาไม่จ่ายเงินคืนเราแล้ว

"แม่ปูนา" ไปปรึกษา "หม่ำจ๊กมก" เจ้าของงาน ขอให้เขาไปคุยกับ "จั๊กกะบุ๋ม" ไปขอความช่วยเหลือแบบนี้ แต่ทาง "พี่หม่ำ" บอกว่า แบบนี้มันฉ้อโกง ต้องไปแจ้งความแล้ว เราคิดว่าเราไม่มีปัญญาไปจ้างทนาย ไม่มีเงินไปสู้คดี ก็เลยตัดสินใจไปทำป้ายมาชู เงินค่าป้ายแค่ 800 บาท ยังไม่มีจ่ายเขา ตอนนี้ครอบครัวเดือดร้อนแสนสาหัส หลานอยากกินขนมยังไม่มีปัญญาจะไปหาซื้อมาให้ อยากจะทำของขาย ก็ไม่มีเงินไปจ่ายค่าบรรจุภัณฑ์ เพราะยอดเงิน 2 แสนบาทนี้มันคือลมหายใจของคนในครอบครัว 





ด้าน "จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม" บอกว่า "ดีใจที่ได้มีโอกาสได้พูดในมุมของตัวเอง จุดเปลี่ยนในชีวิตคือการทำธุรกิจกับเพื่อน แล้ววันดีคืนดีถูกเพื่อนหักหลัง กลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัวในชั่วพริบตา ผมไม่มีเงินเลย โพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อชีวิตมาตลอด ระหว่างที่ไม่มีเงิน ผมก็ไปออกบูทขายปลาร้าทอด จนได้ไปเจอ "แม่ปูนา" ตอนที่ไปออกบูทข้างกันที่ห้างแห่งหนึ่ง ตอนนั้น "แม่ปูนา" ผลิตปูนาดองน้ำปลา กับอ่องมันปูให้ "พ่อเป็ด เชิญยิ้ม" อยู่ ตอนนั้นผมก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ผมขายปลาร้าทอดก็ยังเลี้ยงตัวได้อยู่ จนกระทั่ง "แม่ปูนา" ทักมาทางเฟซบุ๊ก มาเสนอ อ่องมันปู/ปูนาดอง โดยแม่เสนอจะออกทุนให้ก่อน ผมต้องไปออกบูทที่อยุธยา เขาก็ส่งของมาให้เราขายครั้งนั้นครั้งแรก ...

... ตอนไปขายครั้งแรกขายไม่ออก ของเหลือเยอะมาก ปลาร้าทอดขายออกหมดแล้ว เหลือของของ "แม่ปูนา" ที่ต้องหาหนทางขาย ทำยังไงถึงจะขายให้ได้ ระหว่างที่คุยกับเขา เราบอกเขามาตลอดว่าเรามีหนี้รายวันที่ต้องส่ง เราขายของไม่ได้แปลว่าจะเอาเงินมาให้เขาได้หมด เพราะต้องส่งหนี้ วันละ 4 หมื่นบาท ในตอนนั้นที่คุยกัน แม่ปูนาบอกว่า รับรู้เรื่องนี้ และบอกให้เราไปขายก่อน เอาเงินไปส่งหนี้ก่อน แล้วยอดแม่จะจดเอาไว้ ค่อยมาเคลียร์กันที่หลัง ...





ขณะที่ "แม่ปูนา" โต้กลับในประเด็นนี้ว่า "ไม่จริง ไม่เคยบอกว่าให้ไปเคลียร์หนี้ก่อน แม่มีหลักฐานเป็นแชตทั้งหมด จั๊กกะบุ๋มบอกต่อไปว่า เราเข้าใจว่าแม่ปูนาเข้ามาช่วย เมตตาเรา เดือนธันวาคมเราถูกอายัดบัญชี ไม่มีเงินติดตัวสักบาท ถึงขั้นบากหน้าไปขอยืมเงินแม่ปูนาอีก 1 หมื่นบาท ซึ่งแม่ปูนาก็เมตตาให้เรายืม 

งานนี้ "หนุ่ม กรรชัย" ถามว่า สิ่งที่ "จั๊กกะบุ๋ม" เล่ามาทั้งหมด มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ในมุมของ "จั๊กกะบุ๋ม" ว่าเป็นหนี้ ต้องส่งรายวัน แต่ถามว่าถ้าหาเงินมาได้ต้องเอาไปจ่ายรายวันอย่างเดียว แล้วทำไมถึงไม่จ่ายคืนเขาบ้าง ในเมื่อแม่ปูนาก็เป็นเจ้าหนี้เหมือนกัน

"จั๊กกะบุ๋ม" บอกว่า เรื่องนี้ถ้าแม่ไม่ยอม หรือแม่ไม่รู้ แล้วผมเอาเงินไปจ่ายหนี้เจ้าอื่น ก็จะยอมรับว่าผิด แต่นี่แม่รู้ตั้งแต่แรก และได้พูดคุย ทำความเข้าใจกันมาตั้งแต่แรก แล้วเขาจะมาชูป้ายแบบนั้นทำไม





เมื่อถามว่า แล้วที่แม่ปูนาไปขอเงินที่หน้าบูทเราเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขอแค่ 3,000 บาท เป็นเงินทุนเล็กน้อย ถามว่าทำไมไม่ให้เขาไป ผมก็อยากเล่าว่า วันที่เขามา เขามาถามหาพี่หม่ำ ซึ่งเป็นเจ้าของงานในวันนั้น จะไปเล่าเรื่องราวให้พี่หม่ำฟัง ว่าเป็นหนี้ แต่มาแล้วไม่เจอ มาโวยวายที่บูทของผม จนลูกค้าเริ่มจะสงสัยว่าเป็นอะไร วันนั้นผมโอนเงินไปให้แม่ปูนา 2,000 บาท เขาได้เงินแล้วเดินผ่านไป ผมก็เข้าใจว่าเขาได้เงินแล้ว น่าจะสบายใจแล้วว่าผมไม่หนีแน่ เดี๋ยวจบงานเราจะทยอยโอนเงินคืนจริงๆ แต่สุดท้ายเขาก็มาชูป้ายแบบนี้



"ทนายไพศาล" ได้แจ้งในมุมกฎหมายว่า ป้ายที่แม่ปูนาไปชู มันไม่ได้เป็นเรื่องหมิ่นประมาท เขาชูเพื่อทวงในสิทธิ์ที่เขาควรจะต้องได้ อยากบอกจั๊กกะบุ๋มว่าอย่ามาคิดพลิกวิกฤต ถูกชูป้ายแล้วจะไปแจ้งความ เป็นข้ออ้างไม่จ่ายเงิน แต่สิ่งที่จั๊กกะบุ๋มทำมันเป็นการฉ้อโกง หลายกรรมหลายวาระ ถึงเวลาไปขึ้นศาลมันจะกลายเป็นแบบแชร์แม่ชะม้อย ติดคุกเป็นหมื่นปี ตอนนี้กลับตัวยังทัน ไปเคลียร์ ไปคืนหนี้ให้เขา แล้วยังมาทำมาหากินได้อยู่ แต่อย่าเอาชื่อเอาชีวิตตัวเองมาจบเพราะอะไรแบบนี้ดีกว่า เป็นหนี้ก็ต้องใช้ มีค่าสินค้าก็ต้องจ่าย ไม่ใช่ทำเหมือนกับว่าไปขายของมีแต่กำไร สุดท้ายทุนไปอยู่ที่แม่ปูนา มันทำไม่ได้



ขณะที่บรรยากาศในแชตของรายการสด มีคนเข้ามาต่อว่าด่าทอ ทั้งยังมีเจ้าหนี้เข้ามาทวงหนี้จั๊กกะบุ๋มจำนวนมาก ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า "ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย" มันเป็นเอกลักษณ์ เป็นโลโก้ของตัวเองไปแล้ว

พูดมาถึงช่วงท้ายรายการ แม่ปูนาถึงกับอดทนไม่ไหว ปล่อยโฮกลางรายการด้วยความอัดอั้น กุมศีรษะ แล้วพนมมือไหว้จั๊กกะบุ๋ม ขอร้องให้คืนเงินค่าสินค้ามาเถอะ เพราะทุกข์ทรมาน มีคนที่บ้าน 4 ชีวิตรอเงินก้อนนี้ไปต่อชีวิต เป็นภาพที่น่าสงสารจับใจ ช่วงท้ายรายการแม่ปูนายืนกรานว่า จะไม่รับเงินบริจาคจากใครทั้งสิ้น ใครที่อยากจะสนับสนุนแม่ปูนา สามารถไปดูในเพจ "ปูนาฟ้าใส พระรามสอง" อุดหนุนอ่องมันปู ปูนาดอง ของแม่ได้เลย



นอกจากนี้ยังมีหลากหลายคนทั้ง กัน จอมพลัง, หมอปลา, ทนายไพศาล และเพื่อนอินฟลูฯ จะโอนเงินไปช่วยเรื่องค่าบรรจุภัณฑ์ให้แม่ได้ขายของต่อไป นอกจากนี้ M-150 สปอนเซอร์ของรายการยังขอมอบเงินเป็นทุนให้แม่ปูนาอีก 50,000 บาท

ขณะที่จั๊กกะบุ๋มเชิญยิ้ม บอกเจ้าหนี้ทุกคนผ่านทางรายการ บอกว่า ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของตนเป็นตลกตกอับ ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย เพราะข่าวเก่าๆ ของตน ไม่เคยได้ออกมาชี้แจงอธิบาย แล้วมามีเหตุการณ์ชูป้ายแบบนี้ ตนจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ จะขายของได้อีกไหม จะมีใครสนับสนุนอีกไหม ไม่รู้เลย แต่ยืนยันว่าจะทำมาหากินต่อไปแน่นอน