นายกฯ เเจงคนวิพากษ์วิจารณ์เยือนต่างประเทศ ขออย่าด้อยค่าประเทศไทย ย้ำทุกหน่วยทำงานอย่างต่อเนื่อง หลายภาคธุรกิจต้องใช้เวลาในการพูดคุย
เมื่อวันที่ 14 มี.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ชี้แจงประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลงานในการเดินทางเยือนต่างประเทศที่ผ่านมาว่าการลงทุนระดับใหญ่ ขนาดใหญ่ ใช้เวลาในการตกลงค่อนข้างนาน อาจจะไม่เห็นผลสรุปภายใน 2-3 เดือน ซึ่งต้องยอมรับว่า หลายเรื่องเป็นโครงการที่ต่อยอดมาจากรัฐบาลที่แล้ว โดยขอให้ผู้วิพากษ์วิจารณ์อย่าด้อยค่าประเทศไทย การทำงานที่ผ่านมาของนายกรัฐมนตรีไม่ใช่เพียงแค่ส่วนเดียว แต่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง BOI กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้ร่วมงานกับทีมสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในการจัดการ โดยในการทำงานที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องง่าย อาทิ ในประเด็นเรื่องวีซ่า ก่อนที่วีซ่าจีนจะสำเร็จก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เราให้วีซ่าจีนเพียงฝ่ายเดียว แต่ก็ทำจนสำเร็จ ซึ่งรัฐบาลจะทยอยทำ เพิ่มคุณค่าให้กับพาสปอร์ตไทย ทั้งนี้ ในส่วนของสหภาพยุโรปมีหลายประเทศ จึงต้องใช้เวลาในการพูดคุย ในส่วนของการลงทุน อาทิ ประเทศไทยต้องการจะเป็น Data Center การลงทุนเป็นแสนล้าน ต้องมีการศึกษาสิ่งแวดล้อม การซื้อที่ดิน ศึกษากฎหมาย ซึ่งในประเด็นนี้สอดคล้องกับที่นายกรัฐมนตรีประกาศวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND เสริมศักยภาพประเทศไทย ดังนั้น การวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลไม่มีผลสำเร็จ สิ่งที่กังวลคือ อาจทำให้ทีมงาน ข้าราชการไม่สบายใจ ซึ่งที่ผ่านมาทีมงาน ข้าราชการ ทำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อย มีการจัด meeting จัดเตรียมเอกสาร จัดเวลาให้ลงตัว ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เชื่อว่าจะเห็นผลมากขึ้นต่อไป ซึ่งต่อจากนี้ ในวันที่ 21 มี.ค. บริษัท Microsoft จะประกาศข่าวดีที่ประเทศไทย พร้อมกันนี้หลายหลายบริษัทมีการทำความตกลงแล้ว แต่เรื่องบางอย่างยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผยข้อมูลยังต้องเก็บให้เป็นความลับ
ประเด็นของแฟชั่นผ้าขาวม้า นายกรัฐมนตรีแจ้งว่า ตนไม่ใช่คนติดแฟชั่น ที่นำไปก็ไม่ได้ซื้อมา พี่น้องประชาชนเอามาให้ด้วยความรักความผูกพัน จึงอยากตอบแทนด้วยการใส่ให้ชาวโลกเห็นว่า เมืองไทยมีสินค้าดี ทั้งนี้ ได้เชิญแฟชั่นเฮ้าส์เพื่อมาร่วมมือกับประเทศไทย และจะมีการหารือกันในรายละเอียดต่อไป โดยประเด็นที่เป็นข่าวดีคือ ในเดือน พ.ค.นี้ นักธุรกิจฝรั่งเศสกับนักธุรกิจไทยจะนัดพบหารือกันอีกครั้ง และในเดือน ก.ย. นักธุรกิจฝรั่งเศสจะเดินทางมาประเทศไทย และประธานาธิบดีมาครงก็ตอบรับที่จะมาเยือนไทยภายในปีนี้ด้วย
ในส่วนของการแข่งรถ Formula One และ Formula E นั้น ในวันที่ 16 มี.ค. ผู้บริหารบริษัท Formula E จะพบพูดคุยที่ จ.เชียงใหม่ ในส่วนของ Formula One จะจัดขึ้นได้เร็วที่สุดในปี 2027
นายกฯชี้แจงด้วยว่า สำหรับการแถลงข่าว เป็นการตีความจากสื่อมวลชนว่า เป็นการแถลงผลงานแต่เเท้จริงแล้ว เป็นการแถลงเรื่องผลการลงทุนโดยเลขาธิการ BOI และประธานผู้แทนการค้า จะร่วมกันแถลงในวันที่ 26 มี.ค.67 โดยจะมีการรายงานความคืบหน้าต่อคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ จะเป็นการรายงานโดยละเอียดว่า ส่วนไหนอยู่ในขั้นตอนไหน และจะนำมาเปิดเผยให้ได้มากที่สุด