"ฉลองไม่ฉลาม" มูลนิธิรักสัตว์ป่าร้อง "ทศพร" งดเสิร์ฟเมนู "หูฉลาม"ในรัฐสภา งานเลี้ยงราชการในทุกโอกาส
เมื่อวันที่ 13 มี.ค.67 ที่รัฐสภา นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย (พพท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจาก นายเพชร มโนปวิตร ตัวแทนองค์กรไวล์ดเอด และมูลนิธิรักสัตว์ป่า เรื่อง ขอความร่วมมือรัฐสภา "ฉลองไม่ฉลาม" ไม่บริโภค ไม่เสิร์ฟเมนูฉลามในรัฐสภาและงานเลี้ยงทางราชการในทุก ๆ โอกาส สืบเนื่องจากเมื่อวันพฤหัสที่ 29 ก.พ. 67 นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ประธาน กมธ.การสาธารณสุข ได้โพสต์รูปภาพและข้อความในสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาว่า "ในทะเลมีฉลาม ในสภามี...คุณคิดว่าสภาควรจัดหูฉลามให้ ส.ส.กินกันไหม งดเลี้ยงอาหาร ส.ส.ส.ว. เถอะครับ" องค์กรไวล์ดเอดเป็นองค์กรที่ดำเนินโครงการรณรงค์ "ฉลองไม่ฉลาม" เพื่อลดความต้องการบริโภคหูฉลามในประเทศไทย และได้สอบถามไปยัง นพ.ทศพร ได้รับทราบข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่า ซุปหูฉลาม เป็นหนึ่งในรายการอาหารที่จัดเลี้ยงให้กับ ส.ส. เมื่อวันพุธที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา
นายเพชร กล่าวว่า ทั้งนี้ การเสิร์ฟเมนูหูฉลามเป็นการสนับสนุนการบริโภคเมนูจากสัตว์ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ ซึ่งการบริโภคเป็นหนึ่งในภัยคุกคามหลักประการสำคัญที่ทำให้ประชากรฉลามทั่วโลกมีจำนวนลดลง หลายชนิดพันธุ์กำลังเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ และยังส่งผลต่อความสมดุลของระบบนิเวศในทะเล ดังนั้น องค์กรไวล์ดเอด และมูลนิธิรักสัตว์ป่า จึงขอถือโอกาสนี้ในการสร้างความตระหนักต่อรัฐสภา ถึงผลกระทบของการบริโภคเมนูที่ทำจากฉลาม และความสำคัญของฉลามที่มีต่อระบบนิเวศทางทะเล จึงขอความร่วมมือสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาร่วมกันสร้างบรรทัดฐานใหม่ด้วยการ "ฉลองไม่ฉลาม" ไม่บริโภคและไม่เสิร์ฟเมนูที่ทำจากปลาฉลามในรัฐสภา และงานเลี้ยงทางราชการในทุก ๆ โอกาส ซึ่งในแต่ละปีมีปลาฉลามราว 80 ล้านตัวถูกฆ่า ในจำนวนนี้ราว 25 ล้านตัว หรือ 1 ใน 3 เป็นปลาฉลามที่กำลังเสี่ยงสูญพันธุ์
ด้าน นพ.ทศพร กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า ขอรณรงค์ให้การเลี้ยงอาหารในที่ประชุมสภา "ฉลองแต่ไม่ฉลาม" เมนูหูฉลามไม่ได้มีคุณค่าทางอาหาร แต่เป็นความเชื่อของคนรวยในอดีตและขอเรียกร้องในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่าต่อไปจะต้องไม่มีเมนูที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และขอให้ยกเลิกการเลี้ยงอาหาร ส.ส. ส.ว. หรืออย่างน้อยขอให้ยกเลิกเลี้ยงอาหารมื้อเย็นแก่ ส.ส. ส.ว. ซึ่งงบประมาณสำหรับการเลี้ยงอาหารรวมทั้งการประชุม กมธ.ด้วย ในปีหนึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายล้านบาท และขอให้นำงบประมาณส่วนนี้ไปเพิ่มเป็นค่าอาหารกลางวันให้กับนักเรียนที่ได้รับงบประมาณเพียงแค่วันละ 20 กว่าบาทเท่านั้น