ทนายความของ "บิ๊กโจ๊ก" ยันศาลไม่อนุมัติออกหมายจับ ชี้อำนาจไต่สวนอยู่ที่ ป.ป.ช.แล้ว ยันไม่ได้กระทำผิดตามที่มีการตั้งเรื่องกล่าวหา ฟันธงดิสเครดิตขวางนั่ง ผบ.ตร.
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 12 มี.ค.67 นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ พร้อมด้วยนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับการขอออกหมายจับ ที่มีรายชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ต่อศาลอาญาของพนักงานสอบสวน
นายณัฐวิชช์ กล่าวว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนได้ไปยื่นคำร้องขอหมายจับ 1 ในนั้นมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ด้วย ศาลมีคำสั่งยกคำร้อง แปลง่าย ๆ คือไม่ออกหมายจับ และศาลได้มีดุลพินิจว่าไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับตามคำร้อง แต่กลับมีการออกข่าวทำนองว่าศาลออกหมายเรียก หมายจับ แต่จากการตรวจสอบพบว่าศาลไม่ได้ออกหมายจับ เราเห็นว่า พนักงานสอบสวนดำเนินการไม่ถูกต้อง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะข้อเท็จจริงที่กล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีการส่งเรื่องไป ป.ป.ช.แล้ว และ ป.ป.ช.ได้มีมติรับเรื่องไว้ไต่สวนแล้ว อำนาจการสอบสวนไม่ได้อยู่ที่พนักงานสอบสวน หากดำเนินการต่อไป น่าจะเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือไม่ ทางพนักงานสอบสวนต้องรับผิดชอบกันเอง
นายณัฐวิชช์ กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่มีการตั้งเรื่องและกล่าวหา ท่านยันยันว่าไม่มีเส้นทางการเงินเกี่ยวกับท่านเลย เงินที่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาก็เป็นเงินของท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน และท่านได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.พิจารณาเพื่อไต่สวนแล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันไม่ได้กระทำผิดตามที่กล่าวหา หากมีการดำเนินการไม่เป็นไปตามข้อกฎหมาย ท่านจะดำเนินการตามสิทธิของท่านทุกช่องทาง ไม่ว่าทางแพ่งหรืออาญา
"พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้ให้ข้อมูลว่าเรื่องมาเกิดช่วงเวลานี้ ท่านเข้าใจเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเป็นการดิสเครดิต เพราะท่านเป็นรอง ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 เป็นแคนดิเดตที่จะได้รับการพิจารณาแต่งตั้ง การมาออกหมายจับช่วงนี้ได้รับความเสียหาย และมีผลต่อการพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร. ในอีกไม่กี่เดือน"นายณัฐวิชช์ กล่าว