"จักรพล"ประสานทุกหน่วยงานรับมือค่าฝุ่น PM2.5 เชียงใหม่ เผย มี.ค.-เม.ย.ปัญหาฝุ่นควันข้ามแดนเพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 6 มี.ค.67 นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่1 (เชียงใหม่) กรมควบคุมมลพิษ ออกประกาศคุณภาพอากาศเกินมาตรฐานบริเวณภาคเหนือตอนบน (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน) วันที่ 6 มีนาคม 2567 อยู่ในเกณฑ์ ‘เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ’ ว่า สถานการณ์ฝุ่นในช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไปของทุกๆปี เป็นช่วงที่สถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่สูงที่สุด และอาจถือเป็นช่วงที่สภาพอากาศอยู่ในภาวะที่หนักหน่วงที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงที่มีปัญหาฝุ่นควันข้ามแดนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นรัฐบาลจึงได้เดินหน้าแก้ไขปัญหาพร้อมวางมาตรการต่างๆ เพื่อเตรียมการรับมือ ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศในช่วงปลายปี 2566 รวมทั้งพรรคเพื่อไทยได้เร่งการเสนอร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเป็นเครื่องมือหลักในการแก้ไขปัญหา
นายจักรพล กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ซึ่งอยู่ในระหว่างการปฏิบัติการกิจอยู่ในออสเตรเลีย ได้สั่งการให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้ตนอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อประสานงานในการรับมือปัญหากับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ประสานงานกับอุทยานแห่งชาติทุกแห่งในพื้นที่ขอให้ปิดเขตอุทยานทุกแห่งเพื่อลดการเผา รวมถึงขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ เพื่อเร่งทำให้ค่าฝุ่นละอองในพื้นที่ลดลง ขณะเดียวกันก็ได้ประสานงานไปยังกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอให้มีการนำหน้ากากกันฝุ่น น้ำเกลือล้างจมูก และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อมอบให้กับประชาชน
นายจักรพล กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (อบจ.เชียงใหม่) เพื่อให้บริการห้องปลอดฝุ่น ในอาคารต่างๆ และสถานที่ราชการเพื่อให้ประชาชนเข้าใช้บริการฟรี รวมทั้งประสานงานไปยังสถาบันการศึกษา เพื่อนำนวัตกรรมจากงานวิจัยและองค์ความรู้ต่างๆ เข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหาครั้งนี้ อาทิ นวัตกรรมน้ำยาดักจับฝุ่น PM2.5 ฉีดพ่นลดค่าฝุ่นละลองในพื้นที่ หรือ มุ้งปลอดฝุ่น ซึ่งเป็นนวัตกรรมร่วมกันของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับภาคเอกชน สำหรับพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบางในกรณีที่จำเป็นด้วย ขณะนี้ฝ่ายบริหารโดยรัฐบาลได้ประสานทุกองคาพยพในการเร่งแก้ไขปัญหา ในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งผมเป็นประธานคณะ กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ก็เร่งพิจารณากฎหมายนี้เพื่อให้ออกมาบังคับใช้ให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นเครื่องมือหลักในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง