กะเทยไทยเปิดใจโดนกะเทยฟิลิปปินส์รุมทำร้าย

2024-03-05 10:50:40

กะเทยไทยเปิดใจโดนกะเทยฟิลิปปินส์รุมทำร้าย

Advertisement

"คุณวาย" ผู้เสียหายถูก LGBTQ+ ชาวฟิลิปปินส์ทำร้ายเปิดใจกับ "สรยุทธ" โดนหาเรื่อง รุมทำร้าย  ไม่รู้เรื่องกะเทยไทยรวมตัว ขอบคุณพี่ ๆ แม่ ๆ มันจึ้ง มันโฮ่งมาก

กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ จนแฮชแท็ก #สุขุมวิท11 ติดเทรนด์ X  หลังเกิดเหตุการณ์สาวประเภทสองฟิลิปปินส์ เปิดศึกกับสาวประเภทสองชาวไทย ย่านถนนสุขุมวิท 11 กทม.  โดยฝ่ายไทยถูกรุมแบบ 20 ต่อ 4  แถมคู่กรณียังได้นำภาพไปโพสต์เยาะเย้ย จนสาวสองไทยทนไม่ไหวนัดรวมตัวกันพรึ่บ

เมื่อวันที่ 5 มี.ค.67 เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ของ "พี่ยุทธ" ผู้ประกาศข่าวชื่อดังรายงานว่า คุณวาย ผู้เสียหายถูก LGBTQ+ ชาวฟิลิปปินส์ทำร้าย เปิดใจผ่านกรรมกรข่าวคุยนอกจอ เผยต้นเหตุเกิดจากถูกแก๊งฟิลิปปินส์เกือบ 20 คนหาเรื่อง ท้าทายให้ทะเลาะวิวาทหลังออกจากสถานบันเทิงจนต้องขึ้น สน.ลุมพินี หลังออกจากโรงพักไปร้านอาหาร ได้เจอกับคู่กรณีอีกครั้ง ซึ่งไม่รู้ว่ามาดักรอ หรือบังเอิญ ตนจึงเข้าไปถามว่าหาเรื่องทำไม แต่ไม่ทันได้คุยก็ถูกรุมทำร้ายทันที จนมีแท็กซี่เข้ามาช่วยเหลือ ก่อนแยกย้าย LGBTQ+ ชาวฟิลิปปินส์ยังบอกกฎหมายทำอะไรพวกเขาไม่ได้หรอก นอกจากนี้ หนึ่งในคู่กรณียังขโมยกระเป๋าของพวกตนไปด้วย 

คุณวาย ระบุว่า  ส่วนเรื่องรวมตัว ตนไม่รู้เรื่อง ไม่คาดคิดคนจะมาเยอะขนาดนี้ ยืนยันไม่มีการเรียกรวม แต่คาดว่าเห็นคลิปและสงสาร  จึงมารวมตัวกันที่หน้าโรงแรม พร้อมบอกว่า ขอบคุณพี่กะเทยไทย มันจึ้ง มันโฮ่งมาก ขอบคุณพี่ ๆ แม่ ๆ ทุกคนที่มากช่วยหนู ขอบคุณพลังจริง ๆ มันสุดยอดมาก มันสุดยอดมาก   ตนเองอยู่ที่โรงพักตั้งแต่ 4 ทุ่มจนถึงตอนนี้ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ส่วนLGBTQ+ ชาวฟิลิปปินส์ มาโรงพัก 4 คนเป็นคู่กรณี 2 คน อีก 2 ไม่มีความเกี่ยวข้อง และที่เหลือคุณวายอ้างว่า กำลังเดินทางไปที่สนามบิน และมีคนมาบอกเธอว่า ไม่สามารถระงับการเดินทาง เนื่องจากเป็นการทะเลาะวิวาท

ส่วนที่มีชาวฟิลิปปินส์มาโพสต์ขอความช่วยเหลือมันลุกลาม มีคนขอความช่วยเหลือ เธอมองว่า เพื่อผลักปัญหาออกจากตัว แต่ปัญหาที่เขาสร้างกลับไม่ยอมรับ ถ้าเขาตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งอะไรกับหนู มันก็ไม่มีอะไรแล้ว แต่เขาอยากมีปัญหากับหนู แต่พอมีปัญหาเสร็จก็ยิ้มง่ายไหว้สวย ซึ่งเธอได้แผลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย สุดท้ายสิ่งที่เธออยากบอกกับคู่กรณีคือ  MA BU HAY  (มาบูไฮ)


ขอบคุณเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว