รมว.แรงงานสั่งบอร์ดประกันสังคมเพิ่มรายได้ปีละ 120,000 ล้าน

2024-03-04 16:36:19

 รมว.แรงงานสั่งบอร์ดประกันสังคมเพิ่มรายได้ปีละ 120,000 ล้าน

Advertisement

 รมว.แรงงานประชุมบอร์ดประกันสังคมมอบนโยบายเพิ่มรายได้จากปีละ 6 หมื่นล้านเป็น 120,000 ล้าน นำไปเพิ่มสิทธิประโยชน์ 

เมื่อวันที่ 4 มี.ค.67 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการของสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า กระทรวงแรงงานได้กำหนดทิศทางเป้าหมายให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายสำคัญของรัฐบาล มอบแนวทางแด่สำนักงานประกันสังคมในการขับเคลื่อนนโยบายที่ต้องเร่งรัดให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ภายใต้นโยบายมุ่งเน้นการบริการที่ได้มาตราฐาน วินิจฉัยโรคที่แม่นยำรวดเร็ว สะดวกสบาย และ มีการติดตามผล พร้อมคุ้มครอง ดูแลและสร้างสวัสดิการที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตน พร้อมเตรียมเดินสายพบสหภาพแรงงาน หรือ ออกหนังสือหารือ ในการสร้างสวัสดิการที่ดี เป็นประโยชน์กับผู้ประกันตน โดยกำหนดมีรายละเอียดแนวทาง 4 ข้อหลักๆ ดังนี้

1. นโยบายด้านการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับผู้ประกันตน ปรับปรุงและพัฒนากฎหมายให้มีความเหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ มีมาตรฐานสากล พร้อมพัฒนาและยกระดับสิทธิการรักษา รวมถึง สวัสดิการของงานด้านประกันสังคม ที่มีความทันสมัย และตอบสนองความต้องการของผู้ประกันตน ผ่านโครงการ MICRO FINANCE : ลดหนี้ เติมทุน สร้างสุขแรงงาน

2. นโยบายเชิงรุกเพื่อการส่งเสริมสุขภาพที่ดีสำหรับผู้ประกันตน โครงการตรวจสุขภาพเชิงรุก ณ สถานประกอบการ ที่มุ่งเน้นการตรวจคัดกรองโรคที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ มาใช้เพื่อการคัดกรองโรคอันตราย ณ สถานประกอบการ

3. นโยบายด้านการยกระดับงานด้านการบริการ “รวดเร็ว สะดวกสบาย และ มีการติดตามผล” สู่การพัฒนา BEST E-SERIVCE ประกันสังคมยุคใหม่ สร้างความมั่นคง เพิ่มความมั่นใจ ยกระดับการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกันตนในการรับบริการ มีการพัฒนาระบบ TELE – MEDICINE เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกในการได้รับการบริการด้านการรักษาพยาบาล และช่วยลดความแออัด ณ สถานพยาบาล และการพัฒนาระบบประเมินความพึงพอใจในการเข้าบริการของผู้ประกันตน ณ สำนักงานประกันสังคม และโรงพยาบาลประกันสังคม เพื่อการนำข้อมูลมาใช้เพื่อการพัฒนาและระดับงานด้านการบริการและรักษาพยาบาล

4. นโยบาย “กองทุนมั่นคง แรงงานมั่งคั่ง ประกันสังคมยั่งยืน” เพื่อการบริหารจัดการกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และยั่งยืน โดยส่วนแรก คือ การเพิ่มจำนวนผู้ประกันตน พร้อมเร่งศึกษาพัฒนา PACKAGE ด้านประกันสุขภาพที่ตอบสนองความต้องการของผู้ประกันตนยุคใหม่ เพิ่มกลุ่มเป้าหมายของผู้ประกันตนให้เข้าสู่ระบบประกันสังคมที่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานอิสระ หรือมาตรา 40 ส่วนที่สอง คือ พัฒนาด้านการลงทุนที่มีประสิทธิภาพให้ได้ผลตอบแทนการลงทุนที่มากกว่าปัจจุบัน โดยตั้งเป้าหมายผลตอบแทนการลงทุนจาก 2.4% เป็น 5% หรือ จาก ปีละ 6 หมื่นล้านเป็น 120,000 ล้าน ไต่ระดับขึ้นไปตั้งแต่ปี 67-70 นำไปเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กันผู้ประกันตน

รมว.แรงงาน ได้เสนอแนวทางให้คณะกรรมการฯ ดำเนินการพิจารณา ดังนี้

1. คณะกรรมการประกันสังคม พิจารณาแนวทางให้นายจ้างสร้างหลักประกันสังคมให้กับลูกจ้าง โดยขึ้นทะเบียนและจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมอย่างครบถ้วน เพื่อให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์และการคุ้มครองตามกฎหมายครบถ้วน

2.คณะกรรมการการแพทย์ พิจารณาการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ของลูกจ้างหรือผู้ประกันตน ให้ได้รับสิทธิไม่ด้อยกว่าหรือดีกว่ากองทุนอื่น รวมถึงศึกษานวัตกรรมทางการแพทย์สมัยใหม่ที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ

3 คณะกรรมการอุทธรณ์ พิจารณาคำอุทธรณ์ของลูกจ้าง นายจ้าง หรือผู้มีส่วนได้เสีย ด้วยความรวดเร็ว แต่ต้องอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมาย และการวินิจฉัยสิทธิประโยชน์ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน

4. คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน พิจารณาเรื่องการส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงาน พัฒนามาตรการหรือสร้างแรงจูงใจในการลดอุบัติเหตุจากการทำงาน

5. คณะกรรมการตรวจสอบกองทุนเงินทดแทน พิจารณาแนะนำแนวทางการกำกับ ตรวจสอบ และวางระบบการบริหารกองทุน ให้มีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างเชื่อมั่นให้แก่นายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกันตน

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการประกันสังคมและคณะกรรมการอุทธรณ์ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของงานในวันนี้เพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และร่วมเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาระบบงานประกันสังคม เป็นที่ยอมรับ เชื่อมั่น และได้รับความไว้วางใจ ในการสร้างหลักประกันความมั่นคงในการดำรงชีวิตแก่ลูกจ้าง และผู้ประกันตน โดยคณะกรรมการของสำนักงานประกัน สังคม มีทั้งสิ้น 7 คณะ ซึ่งในวันนี้มาร่วมประชุม จำนวน 5 คณะ โดยอีก 2 คณะ คือ คณะกรรมการตรวจสอบกองทุนประกันสังคม และ คณะกรรมการการแพทย์กองทุนเงินทดแทน อยู่ระหว่างการสรรหาเนื่องจากหมดวาระ