​นายกฯ ประชุมด่วนติดตาม PM 2.5 สั่ง มท. กองทัพ ติดตามจุดความร้อนทั่วไทย

2024-02-15 17:14:38

​นายกฯ ประชุมด่วนติดตาม PM 2.5 สั่ง มท. กองทัพ ติดตามจุดความร้อนทั่วไทย

Advertisement

​นายกฯ ประชุมด่วนติดตามสถานการณ์ PM 2.5 สั่ง มท.  กองทัพ ติดตามจุดความร้อนทั่วประเทศ กำชับเจ้าหน้าที่ระดับสูง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่  15 ก.พ.67  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลโท อานุภาพ ศิริมณฑล เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบกและโฆษกกองทัพบก และผู้ที่เกี่ยวข้อง นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวกับที่ประชุมว่า ที่เรียกประชุมด่วนไม่ได้จะตำหนิหรือจะชื่นชมใครเป็นการส่วนตัว วันนี้มีภาพชัดเจนว่า ตอนนี้เป็นช่วงที่ควรจะเป็นช่วงที่ไม่ดีสำหรับจังหวัดเชียงใหม่ แต่ด้วยการประสานงานของทุก ๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายท้องถิ่น หรือว่าเป็นฝ่ายการปกครองโดยกระทรวงมหาดไทย หรือฝ่ายความมั่นคงโดยทหาร ทำงานกันได้อย่าง World Class ดีขึ้นอย่างมโหฬาร โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ได้ลงไปพื้นที่เชียงใหม่กับนายกฯ 3 - 4 ครั้ง ทำให้รู้หมดว่า จุดความร้อน หรือ Hotspot อยู่ตรงไหน อะไรเกิดขึ้นมาตรงไหน สามารถบริหารจัดการได้หมดทุกอย่าง ถือว่าเป็นโมเดลที่เราทำได้อย่างดีมาก ดังนั้น อยากให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำงานร่วมกัน บูรณาการกับทุก ๆ ฝ่าย ทั้งฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง ส่วนท้องถิ่นทำงานร่วมกันให้ดีเหมือนกับที่เชียงใหม่ ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 3 ผู้บัญชาการกำลังพล ผู้ว่าราชการจังหวัด และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำงานได้อย่างดีมาก ถ้าดูในแผนที่จะเห็นว่าดีมาก ไม่มี Hotspot เลย แต่เมื่อดูที่จังหวัดกาญจนบุรียังแย่มาก ซึ่งไม่อยากบอกว่าเป็นความผิดของใครคนใดคนหนึ่ง นอกจากนี้ ที่เชียงใหม่ก็มีเรื่องยาเสพติด หรือการลักลอบของเถื่อนเข้ามาก็มีน้อย เพราะความร่วมมือดีของทุกภาคส่วน แต่ที่เมืองกาญจนบุรี ยังมีเรื่องการลักลอบขนสินค้าเข้ามา โดยนายกฯ จะคุยกับผู้บัญชาการทหารบกอีกครั้ง ทั้งนี้ ต้องพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา เมื่อจังหวัดเชียงใหม่ทำได้ กาญจนบุรีก็ต้องทำได้ โดยอยากให้ฝ่ายการปกครองช่วยดูแล ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องลงพื้นที่เยอะขึ้น ไปบัญชาการเองในเรื่องการเก็บวัชพืช เรื่องการป้องกันไฟที่จะเกิดขึ้น ลงไปดูแลจุด Hotspot ที่เกิดขึ้นมาแล้ว โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีเครื่องมือที่ดีมาก Alert ว่าตรงไหนเป็นอย่างไรทำให้สามารถสั่งการได้ทันที

นายกรัฐมนตรีกล่าวฝากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำให้เต็มที่ในทุก ๆ จังหวัด เพราะกระทรวงมหาดไทยมีกลไก สามารถระดมสรรพกำลังคน ความคิด ความรับผิดชอบหลาย ๆ อย่าง ที่เชื่อว่าสามารถทำได้ รวมทั้งขอฝากทางกองทัพด้วย ซึ่งที่ภาคเหนือ นายกฯ ได้คุยกับผู้บัญชาการทหารบก มียุทโธปกรณ์บางอย่างที่ยังไม่ได้ใช้ เช่น รถเสบียงคนก็ปรับให้มาเก็บซากวัชพืช ลำเลียงให้กับเกษตรกรไปเข้าสู่ไบโอดีเซล หรือไปทำถ่านไร้ควัน หรือไปทำปุ๋ยอินทรีย์ โดยที่ภาครัฐสนับสนุนน้ำมันให้ เพราะจะช่วยทำให้เกษตรกรไม่ต้องเผา ไม่ต้องไถกลบ สามารถเก็บเกี่ยวและมีรายได้เพิ่มด้วย ดังนั้น ขอฝากให้ลงพื้นที่ประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด เกษตรจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้วย

ด้าน พล.ท.อานุภาพ ศิริมณฑล เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก กล่าวว่า ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้มีบัญชามา ทางผู้บัญชาการทหารบกได้รับสนอง และได้สั่งการผ่านไปทางแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งรับผิดชอบในส่วนพื้นที่ของภาคกลาง โดยเฉพาะในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ กรมทหารราบที่ 9 กาญจนบุรีและทหารในพื้นที่ ได้มีการดำเนินการและบูรณาการร่วมกับส่วนราชการอื่น ๆ แล้ว

นายกรัฐมนตรีกล่าวเข้าใจว่ากำลังพยายามทำงานกันอยู่ แม่ทัพภาคที่ 1 อาจมีภารกิจมาก อย่างไรก็ขอฝากให้ท่านได้ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง ติดตามตรวจตรงแนวที่มีปัญหา Hotspot เยอะ ว่าเกิดจากอะไร พืชผลชนิดใด เป็นข้าว หรือข้าวโพด อ้อยก็ยังพอมี ที่สั่งการไปนั้นบางอย่างยังไม่พอ หากอยากให้นายกฯ ลงไปช่วยเหลือที่กาญจนบุรี ก็ยินดีมากขอให้แจ้งมา ทั้งนี้ มีการรายงานว่าอีก 3 วันทิศทางลมจะเปลี่ยนทำให้เรื่องฝุ่นดีขึ้น แต่ขอให้อย่าหวังพึ่งทิศทางลมเลย เราต้องช่วยกันก่อน เพราะทำให้มีคนป่วย คนเจ็บและมีคนอาจจะเสียชีวิตได้ เรื่องนี้เป็นสิทธิพื้นฐานของพี่น้องประชาชน เป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องทำ ส่วนปัญหาผลกระทบหมอกควันข้ามแดนที่มาจากประเทศกัมพูชา หรืออื่น ๆ นายกรัฐมนตรีรับจะไปพูดคุยกับกระทรวงการต่างประเทศ แต่ปัญหาในประเทศทุกหน่วยงานจะต้องร่วมกันบูรณาการแก้ไข โดยขอให้มีการประชุมร่วมกันอีกครั้ง

"อย่าให้มีการสั่งการเพียงอย่างเดียว ขอให้ร่วมกันลงพื้นที่ไปสำรวจมากขึ้น โดยที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมมือกันทุกภาคส่วน แม่ทัพภาคที่ 3 ได้ทำไว้อย่างดีมาก ซึ่งขอฝากไว้ด้วย เพราะจะช่วยได้ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่เรื่อง PM 2.5 เพียงอย่างเดียว เรื่องยาเสพติด เรื่องสินค้าเถื่อน ซึ่งเป็น 3 ปัญหาหลัก หากสินค้าเถื่อนไม่มี ราคาพืชผลของไทยก็จะดีขึ้นกว่าเดิม รายได้ก็จะเข้าสู่กระเป๋าประชาชนมากยิ่งขึ้น ไม่ไปฝักใฝ่กับยาเสพติดอีก เป็นห่วงโซ่ในเรื่องบวกทั้งนั้น หากเป็นไปได้เสาร์ - อาทิตย์ที่จะถึงนี้ ขอให้มีผู้ใหญ่ลงพื้นที่สำรวจปัญหาดังกล่าว ต้องให้กำลังใจทีมงานจังหวัดเชียงใหม่เพราะปฏิบัติงานได้ดีมาก ถ้ามี Key learning point อย่างเขาได้ ก็ขอฝากให้นำไปใช้ในจังหวัดอื่น ๆ ด้วย” นายกรัฐมนตรีกล่าว