เปิดหลักฐานสลิปโอนเงินซื้อไม้พะยูงเฉียดล้านโยง 3 ข้าราชการ

2024-02-15 14:48:12

เปิดหลักฐานสลิปโอนเงินซื้อไม้พะยูงเฉียดล้านโยง 3 ข้าราชการ

Advertisement

เปิดหลักฐานเด็ดสลิปโอนเงินซื้อไม้พะยูงเฉียดล้านลงบิลแสนเดียวโยง 3 ข้าราชการ

เมื่อวันที่ 15 ก.พ.67 พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ได้ลงพื้นที่สอบปากคำพยาน คดีตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุหรือในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 โดยสอบปากคำไปแล้วจำนวน 14 ปาก ซึ่งคดีมีความคืบหน้าไปมาก ล่าสุดพยานปากสำคัญซึ่งเป็นพ่อค้า ได้นำหลักฐานที่เป็นภาพถ่าย สำเนาสัญญาซื้อขาย พร้อมสลิปโอนเงิน มามอบให้พนักงานสอบสวน เพื่อประกอบสำนวนคดีด้วย ถือเป็นหลักฐานเด็ดมัดตัวข้าราชการระดับสูงของสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีรับโอน และเชื่อมโยงถึงข้าราชการระดับสูง ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) กาฬสินธุ์ เขต 2 อีก 2 คน ก่อนที่พยานปากเอกที่เป็นพ่อค้ารับซื้อไม้คนดังกล่าว จะแจ้งความเอาผิดข้าราชการทั้ง 3 คน ข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

พล.ต.ต.ตรีวิทย์กล่าวอีกว่า คดีตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุ ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ทั้งลักลอบตัดและขออนุญาตตัดขาย เกิดขึ้นหลายแห่ง โดยเฉพาะในเขต สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะเห็นดำเนินการสืบสวนสอบสวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เขตเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์และโรงเรียนหนองโนวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก และโรงเรียนคำไฮวิทยา แต่ผลการสอบปากคำพยานหลายปาก สามารถที่จะประมวลผลและเชื่อมโยงเหตุการณ์ถึงข้าชการและตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในการตัดไม้พะยูงขายหลายโรงเรียน หลายคน ซึ่งตอนนี้เข้าข่ายที่จะตกเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดจำนวน 7 คน โดยมีบุคคลที่เป็นข้าราชการระดับสูงของสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ 1 คน และ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 อีก 2 คน เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตตัด ให้อนุญาตตัดทุกโรงเรียน  ซึ่งใกล้จะสรุปสำนวนส่ง ปปช.กาฬสินธุ์ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเร็วๆนี้

“จากการสอบปากคำพยานสำคัญในกรณีดังกล่าว ทั้งคณะกรรมการสถานศึกษา ครูโรงเรียน และผู้ซื้อไม้พะยูงในโรงเรียนทั้ง 3 แห่งดังกล่าว ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก ล่าสุดยังมีพ่อค้าซื้อไม้พะยูงในโรงเรียนหนองกุงไทย ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก ได้นำภาพถ่าย สำเนาสัญญาซื้อขาย พร้อมสลิปโอนเงิน มามอบให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับข้าราชการระดับสูงสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ 1 คน และข้าราชการระดับสูง สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 อีก 2 คน รวม 3 คน ข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบดังกล่าว” พล.ต.ต.ตรีวิทย์กล่าว

ด้านนายไพศาล ภูลายเรียบ อายุ 60 ปี พ่อค้าซื้อไม้พะยูงในโรงเรียนบ้านหนองกุงไทยวิทยาคม ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็กกล่าวว่า เมื่อประมาณปลายปี 2565 ทราบจากชาวบ้านหนองกุงไทย ว่าทางโรงเรียนจะมีการขออนุญาตตัดไม้พะยูงเพื่อจำหน่าย เนื่องจากมีคนชอบมาลักขโมยเป็นประจำ จึงจะขออนุญาตตัดขายไม้พะยูงที่เหลืออยู่ในโรงเรียน ตนจึงได้ไปติดต่อขอทราบรายละเอียดจากโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนได้แจ้งให้ทราบว่า ได้เสนอเรื่องขออนุญาตตัดไปยัง สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 และสพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อขออนุญาตตัดตามลำดับ ตนจึงได้ไปติดต่อสำนักงานธนารักษ์ เจ้าหน้าที่ธนารักษ์ได้บอกให้ตนติดต่อเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับตนว่าวันที่ 18 ธ.ค.65 จะไปดูไม้ที่พื้นที่โรงเรียนหนองกุงไทยวิทยาคม ตนจึงได้ตามไปดูไม้พะยูงที่โรงเรียนในวันดังกล่าว โดยมี ผอ.รร.นำชี้ต้นไม้พะยูงที่จะตัดขายจำนวน 7 ต้น

นายไพศาลกล่าวอีกว่า ต่อมาประมาณปลายเดือน ธ.ค.65 ตนได้ไปติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเกี่ยวกับใบอนุญาตขาย และตัดไม้พะยูงของโรงเรียนฯ ว่าดำเนินการถึงไหนแล้ว นายสันติแจ้งกับตนว่าเอกสารขออนุญาตขายตัดไม้พะยูงจาก สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 มาถึงสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์แล้ว เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวบอกกับตนว่ามีอำนาจหน้าที่ในการประเมิน และออกใบอนุญาตให้กับสำนักงานเขต ได้ขอคุยนอกห้องปฏิบัติงาน โดยแจ้งให้ทราบว่าหากอยากจะได้เป็นผู้ซื้อไม้พะยูงขอให้จ่ายเงินผ่านเจ้าหน้าที่รายนี้ จำนวน 200,000 บาท ตนไม่มีเงินสดจึงขอจ่ายโอนทางบัญชี  ลงวันที่ 25 ธ.ค.65 เวลา 15.56 น. ตามเอกสารหลักฐานที่ส่งมาด้วย 1 และแจ้งให้ตนทราบว่าหากดำเนินการทำเอกสารเสร็จแล้ว จะนำไปส่งให้ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ด้วยตนเอง

“เมื่อเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวได้ทำเอกสารเสร็จ จึงได้โทรศัพท์มาบอกผม และได้ขอเงินเพิ่มอีกจำนวน 50,000 บาท เจ้าหน้าที่รายดังกล่าว จึงนำเอกสารดังกล่าวไปส่งที่ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ด้วยตนเอง ต่อมาผมได้ไปติดต่อที่ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 เพื่อขอรับเอกสารสัญญาซื้อขายเพื่อนำไปประกอบการตัดไม้พะยูง เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวได้แจ้งให้ผมเตรียมเงินไปด้วยประมาณ 500,000 บาทไปด้วย โดยเมื่อไปถึง สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 และขณะที่รอทำสัญญาซื้อขายไม้พะยูงของโรงเรียนหนองกุงไทยวิทยาคม ระหว่างสพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 โดยเจ้าหน้าที่ 2 คน ให้ผมจ่ายเงินจำนวน 400,000 บาท ผมจึงถามว่าเป็นเงินค่าอะไร เพราะได้จ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ธนารักษ์แล้ว  เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นค่าลงนามในสัญญาซื้อขายไม้พะยูง ผมจึงได้นำเงิน 400,000 บาท ใส่ซองกระดาษมอบให้ไป จากนั้นได้นำสัญญาซื้อขายมาให้ลงนามในสัญญา พร้อมทั้งให้ผมจ่ายเงินค่าซื้อไม้พะยูงอีกจำนวน 99,000 บาท รวมจ่ายวันนั้น 499,000 บาท  นอกจากนี้ ในวันที่ 25 ก.พ.66 ยังได้โอนเงินจำนวน 140,000 บาท และจ่ายเพิ่มอีก 30,000 บาท เพื่อซื้อไม้พะยูง 3 ต้น ที่โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์อีกด้วย โดยทั้ง 2 แห่ง เมื่อรวมทั้งหมดที่ผมโอนและจ่ายซื้อไม้พะยูงคือ 919,000 บาท  ซึ่งเป็นเจตนาซื้อขายไม้โดยบริสุทธิ์ เพราะเห็นว่ามีหลักฐานการขออนุญาตตัด และซื้อชายโดยทางราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ทราบภายหลังว่า ลงใบเสร็จรับเงินโรงเรียนหนองกุงไทยวิทยาคมเพียง 99,000 บาท และลงใบเสร็จโรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์เพียง 30,000 บาทเท่านั้น” นายไพศาล กล่าว