"เอกนัฏ"เสนอญัตติด่วนเร่งรัดรัฐบาลปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยขบวนเสด็จใหม่ (มีคลิป)

2024-02-14 17:52:39

"เอกนัฏ"เสนอญัตติด่วนเร่งรัดรัฐบาลปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยขบวนเสด็จใหม่ (มีคลิป)

Advertisement

"เอกนัฏ"เสนอญัตติด่วนเร่งรัดรัฐบาลผ่านไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยขบวนเสด็จใหม่ พร้อมเสนอ 3 แนวทางให้นำไปปฏิบัติหยุดปัญหาไม่ให้ลุกลามบานปลาย  

เมื่อวันที่ 14 ก.พ.67 ที่รัฐสภา นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่อง ให้รัฐบาลเร่งรัดดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมาย ทบทวนระเบียบ แผน และมาตรการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จให้เหมาะสม ทันสมัย มีการฝึกซ้อม และประชาสัมพันธ์สื่อสารกับประชาชน เพื่อเป็นการถวายความปลอดภัยให้สมพระเกียรติและรักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ

นายเอกนัฏ อภิปรายว่า ขอบคุณสมาชิกที่บรรจุญัตติด่วนในวันนี้ ตนแจ้งประธานสภาฯว่า จะอภิปรายเหตุผลสนับสนุนการเสนอญัตติภายใต้ข้อบังคับอย่างเคร่งครัด จะไม่เอ่ยชื่อบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็นเหตุผลที่ตนตัดสินใจเสนอญัตติในวันนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์วันที่ 4 ก.พ.67 มีการเผยแพร่ทางสื่อมวลชนอย่างกว้างขวาง มีการไปรบกวนก่อกวนขบวนเสด็จ ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย กรณีนี้หากไม่มีการบริหารจัดการอย่างเร่งด่วน จะทำให้สถานการณ์บานปลาย กระทบต่อความสงบเรียบร้อยศีลธรรมอันดี โดยเฉพาะความมั่นคงของประเทศ จึงตัดสินใจเสนอเป็นญัตติด่วนด้วยวาจา

นายเอกนัฏ กล่าวว่า ย้อนไปหลังวันเกิดเหตุวันที่ 4 ก.พ.67 มีการไปรบกวนขบวนเสด็จในขณะที่ขบวนเสด็จกำลังเดินทางไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจของพระบรมวงศานุวงศ์ หลังเกิดเหตุตนติดตามผ่านสื่อ สิ่งแรกที่เห็นคือ คลิปที่มีการเผยแพร่ ทำให้ตกใจ เพราะปรากฏในคลิป ชัดเจนว่า ขบวนเสด็จที่สัญจรอยู่เป็นขบวนที่สั้นมาก เห็นชัดว่า การถวายความปลอดภัยในวันนั้นดำเนินการด้วยความระมัดระวังไม่ให้กระทบต่อการสัญจรของประชาชน นอกจากขบวนสั้นแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีลักษณะไปปิดถนนปิดกั้นการสัญจรของประชาชนบนถนนเส้นนั้นเลย มีแต่กันเป็นจังหวะเพื่อให้การจราจรไหลลื่น  ทั้งนี้ ปรากฏว่ามีรถของผู้ก่อเหตุวิ่งมาด้วยความเร็วเจตนาชัดเจนว่า พยายามวิ่งไล่ขบวนเสด็จ ทำให้รถที่ปิดท้ายขบวนต้องออกมากัน หลังจากนั้นปรากฏคลิปอีกคลิปหนึ่งทำให้เห็นเจตนาของผู้ก่อเหตุคืออะไร หลังจากได้เห็นคลิป ตนเชื่อว่า ความรู้สึกของตนเหมือนกับของความรู้สึกของประชาชนในประเทศ ตนรู้สึกโกรธมากว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ แต่ในขณะที่โกรธจนถึงขีดสุด ถึงจะรังเกียจในพฤติกรรมที่เกิดขึ้นแต่ที่แว่วมา ทำให้การบันดาลโทสะลดลง นั่นคือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระองค์ท่านได้ทรงตรัสไว้ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งความประนีประนอม ถ้าเพื่อนสมาชิกจำได้สื่อต่างประเทศ CNN เคยยื่นไมค์จ่อพระโอษฐ์ระหว่างเสด็จพระราชดำเนินพบประชาชน พระองค์ตรัสไว้ชัดเจนว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งความประนีประนอม

นายเอกนัฏ กล่าวว่า เคยมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน มีการไปรบกวนขบวนเสด็จเมื่อปลายปี 2563 มีสื่อมวลชนไปถามถึงกรณีมีการประท้วงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบัน พระองค์ท่านมีพระราชดำรัสตรัสไว้ชัดเจน จึงทำให้ดึงสติตนลงมาจากความโกรธที่จะไปถึงรังเกียจพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ทำให้สงบสติอารมณ์ลง ความจริงพฤติกรรมลักษณะนี้ ไม่ต้องพูดถึงพฤติกรรมที่เกิดกับขบวนเสด็จ มารยาททางสังคมที่เราปฏิบัติกันอยู่ แม้บนถนนมีรถพยาบาลวิ่งมา เราก็ต้องถอยให้ขบวนมาผ่านไป

“แต่กรณีนี้วิ่งมาด้วยความเร็วจี้ขบวนเหมือนมีความตั้งใจว่าจะให้เกิดเหตุ หลังมีข่าวถูกเผยแพร่อย่างแพร่หลายผมรู้สึกกังวลใจ และสิ่งที่ผมคาดหวังและเฝ้ารอว่า เมื่อเหตุเกิดวันที่ 4 ก.พ.67 เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะออกมาดำเนินการอย่างไรบ้าง จะบังคับใช้กฎหมายอย่างไรบ้าง แต่ปรากฏว่า รออยู่เป็นสัปดาห์ การแสดงท่าทียังไม่ชัดเจนจนกระทั่งวันที่ 10 ก.พ.67 ผู้ก่อเหตุยังเหิมเกริมไปทำโพลที่ BTS สยาม ทำให้เกิดการปะทะกัน ผมยืนยันว่า ที่นำมาพูดวันนี้ไม่ใช่ต้องการมาตอกย้ำ แต่มีความตั้งใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ควรเกิดขึ้นอีก ถ้าเราปล่อยปละละเลย เริ่มมีการปะทะมีการประท้วงกัน ถ้าเราไม่รีบบริหารจัดการจะบานปลายไปสู่ความแตกแยก นำไปสู่ความรุนแรงอาจปะทุไปเหมือนประเทศอื่นได้ นั่นคือเหตุผลที่ผมตัดสินใจ ปรึกษาวิปรัฐบาลและพรรค เพื่อส่งสัญญาณไปยังรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัด การปฏิบัติหน้าที่ เพื่อยับยั้งไม่ให้สถานการณ์บานปลาย” นายเอกนัฏกล่าว

นายเอกนัฏกล่าวอีกว่า ขอเสนอดังนี้ 1.ขอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยบังคับใช้กฎหมายโดยทันที ที่ออกมาเรียกร้องไม่ใช่การล่าแม่มดหรือการประหัตประหารผู้กระทำความผิด หรือจะใช้ศาลเตี้ย แต่เพื่อความสงบเรียบร้อยไม่ให้สถานการณ์บานปลาย เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งบังคับใช้กฎหมายไม่มีอะไรอยู่เหนือกฎหมาย การใช้สิทธิ์เสรีภาพมีกรอบชัดเจนว่า ต้องไม่ไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่นๆ และต้องไม่ไปกระทำความผิดกฎหมายตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 2. ตนเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่ใช้พื้นที่ในสภาฯแห่งนี้มาสะท้อนความคิด อย่างสร้างสรรค์เพื่อมีข้อสรุปในการทบทวนระเบียบมาตรการต่างๆ รวมไปถึงแผนการถวายความปลอดภัยแก่ขบวนเสด็จ ตนเชื่อว่าปัจจุบันกฎหมายที่ใช้อยู่ได้ Update พอสมควร คือพ.ร.บ.ถวายความปลอดภัย ปี พ.ศ 2560 ชัดเจนว่า การถวายความปลอดภัยมีความหมายอย่างไร ใครต้องเป็นผู้ปฏิบัติ แต่เนื่องจากภารกิจนี้มีความสำคัญ และไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก 

"ถ้าจำกันได้ปลายปี 2560 ก็เกิดการรบกวนก่อกวนขบวนเสด็จเหมือนที่เพิ่งเกิดขึ้น จนทำให้ผมกังวลว่า หากเราไม่มาทบทวนมาตรการให้มีความเข้มงวด จะเป็นการปล่อยปละละเลย จนกระทั่งการกระทำลักษณะแบบนี้เป็นแฟชั่น เป็นค่านิยมใหม่ที่เกิดขึ้น ผมไม่อยากจินตนาการจนบานปลายไปมากกว่านี้ ผมจำได้สมัยเรียนในประเทศอังกฤษมมีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเจ้าหญิงไดอาน่า ที่ประเทศสหราชอาณาจักรเหตุการณ์นั้น เกิดจากการปล่อยปละละเลย ความมักง่าย มีรถของสื่อมวลชนเพียงคันเดียว เบียดช่องทางการจราจรมาแทรกรถของเจ้าหญิงไดอาน่าจนเกิดอุบัติเหตุสะเทือนไปถึงประชาคมโลก ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก อยากให้เห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนและส่งสัญญาณไปถึงหน่วยงานเกี่ยวข้องว่าต้องทบทวนมาตรการให้รัดกุมกว่านี้" นายเอกนัฏกล่าว

เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวย้ำว่า เมื่อเกิดเหตุขึ้นภารกิจสำคัญของเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาคือ การถวายความปลอดภัย ให้เป็นมาตรฐานสากล นำ VIP ไปสู่ที่ปลอดภัยก่อน แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 4  ก.พ.67 ตนมีความหวังว่า จะเจ้าหน้าที่จะรีบบังคับใช้กฎหมายไม่ให้สถานการณ์บานปลาย เพราะกรณีนี้อาจจะมีการเชื่อมโยงไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้เจ้าหน้าที่กังวลใจว่า ถ้าปฏิบัติเข้มงวดไป จะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ แต่ตนยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ท่านไม่ใช่เซลล์ที่ต้องคำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้า แต่ตนบอกตามตรงดำเนินการช้าเกินไป

นายเอกนัฏ กล่าวด้วยว่า ความจริงเรามีกฎหมายบังคับใช้ เฉพาะในการถวายความปลอดภัย พ.ศ 2560 ถ้าเทียบเคียงกับมาตรการในต่างประเทศ ในสหรัฐอเมริกามีคนมาก่อกวนเส้นทางสัญจรขบวนรถผู้นำเจ้าหน้าที่ยังเข้าไปชาร์ตทันที แต่ประเทศไทยอาจไม่ต้องดำเนินการถึงขนาดนั้นแต่เหตุการณ์ที่ท้าทายการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ล่าช้าไป ทั้งที่กฎหมาย ระบุไว้ชัดเจน สิ่งที่ตนกังวลขณะนี้คือ ตัระเบียบและแผนที่ตามมากับกฎหมายปี 2560 เท่าที่สอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เป็นระเบียบและแผนที่ใช้ตั้งแต่ปี 2548 ขณะนี้สถานการณ์ความขัดแย้งและบริบททางสังคมเปลี่ยนแปลงไปมาก อย่างไรก็ตาม หลายสิบปีที่ผ่านมานิยามของคำว่า ภัยคุกคามและภัยคุกคามต่อขบวนเสด็จในเรื่องความพยายามที่จะก่อกวนและก่อเหตุให้เกิดเหตุอันตรายเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไป เห็นได้ชัดว่า 10-20 ปีที่ผ่านมาเราคงไม่สามารถจินตนาการได้ว่า เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว เมื่อเหตุเกิดขึ้นหากกฎหมายอัพเดท แผนและระเบียบต้องอัพเดทตามกฎหมายด้วย ต้องมีเจ้าภาพมีขอบเขตชัดเจน จะได้ไม่ต้องมาถกเถียงว่าเกิดเหตุในพื้นที่เป็นของสน.ใด เรื่องถวายความปลอดภัยถวายพระเกียรติถือเป็นภารกิจที่สำคัญมากๆต้องไร้รอยต่อ ต้องมีการอัพเดทตามสถานการณ์อย่างเหมาะสมเข้มงวดรัดกุมและชัดเจน

นายเอกนัฏ กล่าวด้วยว่า เมื่อมีการทบทวนแผนระเบียบต่างๆแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือ การฝึกซ้อมให้มีความพร้อม ตนเห็นเนื้อหาในคลิปของเจ้าหน้าที่และผู้ก่อเหตุ ดูแล้วเหมือนจะลักลั่น ในต่างประเทศถ้าเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่จะรู้กฎระเบียบ อะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ เพราะการใช้สิทธิ์ส่วนบุคคลมีขอบเขต ไม่ไปรบกวนขบวนเสด็จหรือไปละเมิดสิทธิความเป็นอยู่ของประชาชน ยิ่งในยุคที่มีการเผยแพร่สื่อโซเชียล ก่อเหตุเสร็จ ถ่ายคลิปทันที เจตนาคืออะไร แบบนี้เจ้าหน้าที่จึงต้องระมัดระวังมีมาตรการมีแผนแล้วต้องมีการฝึกซ้อม มีคู่มือการปฏิบัติ และต้องรู้ สิ่งแรกเมื่อเกิดเหตุการณ์สื่อสารกับประชาชน ตนไม่อยากวิจารณ์เจ้าหน้าที่ เข้าใจว่าอาจจะไม่มีแผนการปฏิบัติและคู่มือที่ชัดเจนแต่ก็หวังว่า หลังจากนี้จะไม่มีเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก

 เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ข้อเสนอข้อสุดท้ายคือ การประชาสัมพันธ์ การสื่อสารกับประชาชน ที่ต้องสื่อสารกับประชาชนเพราะต้องยอมรับว่าภารกิจ ในการถวายความปลอดภัยไม่มีที่ไหนในโลกที่ไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเลย แต่พระมหากรุณาธิคุณ ที่ออกมาคือ ต้องการให้การรบกวนการสัญจรของประชาชนให้น้อยที่สุด ดังนั้นต้องประชาสัมพันธ์กับประชาชน ว่าการถวายความปลอดภัยต่อขบวนเสด็จ สามารถทำอะไรได้บ้าง อาจจะมีผลกระทบอะไรบ้าง และที่สำคัญที่สุดพี่น้องประชาชนจะต้องทำตัวอย่างไร ตนเชื่อว่า มีประชาชนหลายคน ต้องการให้ความร่วมมือและเป็นหูเป็นตาด้วย เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก

นายเอกนัฏ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในใจตนมาตลอด สิ่งที่ตนพูดไปวันนี้ ถือว่าได้ทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎร ได้สะท้อนความรู้สึกความคิดของพี่น้องประชาชนคนไทย หลายคนในประเทศแล้ว ตนได้ใช้ตำแหน่ง สส.เปิดพื้นที่แห่งนี้เพื่อให้มีการอภิปรายอย่างเปิดเผย ได้ส่งสัญญาณผ่านรัฐบาล ไปถึงรัฐบาลถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทบทวนปรับปรุงสื่อสารแผนและมาตรการต่างๆ เพราะกังวลว่าถ้าเราปล่อยปละละเลย ไม่เข้มงวด จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว นำไปสู่ความวุ่นวาย เกิดการปะทะกันในหมู่ประชาชน เกิดความแตกแยก

"ขอย้ำว่าผมและสส.รวมไทยสร้างชาติเราอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข ไม่อยากให้มีพฤติกรรม หรือมีค่านิยมเป็นแฟชั่นไปบั่นทอนสถาบันหลักของประเทศ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมเสนอญาติด่วนเพื่อให้สภาฯได้พิจารณาให้รัฐบาลดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บังคับใช้กฎหมายทบทวนระเบียบแผนมาตรการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จให้เหมาะสมทันสมัย มีการฝึกซ้อมและประชาสัมพันธ์สื่อสารกับประชาชน ถือเป็นการถวายความปลอดภัยให้สมพระเกียรติ รักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ” นายเอกนัฏกล่าว

ทั้งนี้ ก่อนที่นายเอกนัฏอภิปรายได้มี ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมใจกันติดริบบิ้น สีม่วงเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี