กมธ.ปปง. เรียกถก "ดีเอสไอ-กรมบังคับคดี" ปมโครงการอาคารชุดใน จ.นนทบุรี
เมื่อวันที่ 14 ก.พ.67 ที่รัฐสภา นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม กมธ โดยได้เชิญ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อธิบดีกรมบังคับคดี เข้าชี้แจงกรณีผู้ประกอบการโครงการอาคารชุดแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ซึ่งที่ผ่านมาเกือบ 2 ปี กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เข้ามาสอบสวนยังไม่มีการฟ้องร้องดำเนินคดี แต่ทางกรมบังคับคดี ได้เตรียมดำเนินการขายอาคารและที่ดินทอดตลาดแล้ว
พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษา กมธ.ปปง. กล่าวว่า เรื่องนี้ มีปัญหาความซับซ้อนด้านการลงทุน ความเสียหายเป็นเรื่องของมัดจำที่บริษัทถูกฟ้องล้มละลาย ประเด็นนี้ ควรต้องสอบข้อเท็จจริง เพราะการล้มละลายนั้น ลูกหนี้ เจ้าหนี้ เป็นบุคคลคนเดียวกัน ตอนจบของเรื่องบริษัทอาจจะได้ทั้งเงินและที่ดินฟรี เป็นลักษณะปลูกตึก เก็บเงิน ฟ้องล้มเอง เข้าข่ายอาชญากรรมเศรษฐกิจ กรณีดังกล่าวจึงเชื่อว่าเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ควรที่จะตั้งเรื่องตรวจสอบก่อน เพื่อป้องกันการบังคับคดีในการจำหน่ายที่ดินที่จะทำให้กระทบต่อประชาชนผู้เสียหาย
นายเลิศศักด์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ยังไม่มีข้อสรุป แต่ในครั้งต่อไปจะเชิญอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อธิบดีกรมบังคับคดี มาอีกครั้ง และจะเชิญ ปปง. เข้ามารับทราบข้อมูลในเรื่องนี้ ในส่วน กรมบังคับคดี ขอความคืบหน้าเพิ่มเติมสรุปความชัดเจนในการขายทอดตลาด ขอเชิญผู้เสียหายเพื่อหาข้อยุติ ในการปฏิบัติงานของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าจะไปในทิศทางไหนต่อไป
รายงานแจ้งว่าขั้นตอนขายทอดตลาดโดย กรมบังคับคดี เบื้องต้น การดำเนินการก่อสร้างรวมกว่า 1,000 ยูนิต การบังคับคดี จะเน้นไปที่คดีแพ่ง ที่จะต้องดูที่มาของหนี้ หมายถึงมูลแห่งหนี้มาอย่างไร ที่ปัญหานี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน การขายทอดตลาด ก็ยังอยู่ในอำนาจกรรมการพิทักษ์ทรัพย์ทราบว่ามีเจ้าหนี้ที่เป็นผู้เสียหายได้ยื่นร้องเอาไว้จำนวน 489 ราย แต่กรมบังคับคดี ตรวจสอบมีกว่า 800 ราย มียอดความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท ในส่วนที่จะมีการขายทอดตลาดในวันที่ 19 ก.พ.67 เนื่องจากยังมีผู้ร้องคัดค้านไว้กว่า 40 ราย กรมบังคับคดี ได้ขยายออกไปเป็นเดือน มี.ค.67 แล้ว