"ภคมน" แนะ "อัครเดช" เลิกกล่าวหาคนอื่นสร้างวาทกรรมแบ่งแยก

2024-02-12 03:00:10

"ภคมน" แนะ "อัครเดช" เลิกกล่าวหาคนอื่นสร้างวาทกรรมแบ่งแยก

Advertisement

"ภคมน" แนะ "อัครเดช" เลิกกล่าวหาคนอื่นสร้างวาทกรรมแบ่งแยก ลองทบทวนต้นตอความขัดแย้งการเมืองไทย ชี้สิ่งที่ควรไม่สบายใจ ไม่ใช่คำพูด "พิธา"  แต่คือการผลักคนเห็นต่าง ไม่มีพื้นที่พูดคุยหาทางออก

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.67 น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ระบุไม่สบายใจที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรคก้าวไกลใช้วาทกรรมคนรุ่นใหม่แบ่งแยกคนในสังคม ว่าถ้านายอัครเดชฟังสิ่งที่พิธาสื่อสารแล้วไม่สบายใจ นั่นอาจเป็นปัญหาส่วนตัวเกี่ยวกับตีความของนายอัครเดชเอง เพราะสิ่งที่พิธาพูดคือการพยายามเชิญชวนให้สังคมมองกรณีคุณทานตะวันและเหตุการณ์ขบวนเสด็จโดยไม่แยกขาดจากการเมืองภาพใหญ่ เพราะไม่ว่านายอัครเดชจะยอมรับหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงคือความขัดแย้งทางการเมืองของสังคมไทย โดยเฉพาะที่ต่อเนื่องจากการชุมนุมที่นำโดยคนรุ่นใหม่เมื่อปี 2563 วันนี้ยังคงอยู่ โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกพูดถึงก็คือสิ่งที่นายพิธาเรียกว่า ความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนใจ สิ่งที่น่าไม่สบายใจ ไม่ใช่คำพูดของนายพิธา แต่คือการที่สังคมไทยยังไม่มีพื้นที่ให้แต่ละฝ่ายที่เห็นต่างกันได้พูดคุยเพื่อหาทางออกจากความขัดแย้ง กลับใช้นิติสงครามกดปราบ ผลักไสอีกฝ่ายเป็นคนไม่รักชาติ หรือเลวร้ายกว่านั้นคือลุกลามเป็นการใช้กำลัง หวังให้อีกฝ่ายไม่เหลือที่ยืน นี่ต่างหากคือสิ่งที่น่าไม่สบายใจ น่าเป็นห่วงต่ออนาคตประชาธิปไตยไทย 

รองโฆษกพรรคก้าวไกลกล่าวต่อว่า ขอให้นายอัครเดช ซึ่งด้วยวัยวุฒิเรียกได้ว่าเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เลิกกล่าวหาคนอื่นใช้วาทกรรมแบ่งแยก และลองทบทวนดูว่าความขัดแย้งตลอดหลายสิบปีในสังคมไทยเกิดจากอะไรกันแน่ สิ่งใดที่แบ่งแยกคนออกจากกัน เป็นเพราะคำพูดของคนไม่กี่คนหรือเพราะประชาชนรับรู้ถึงความผิดปกติ ความอยุติธรรมว่ามันมีอยู่จริง ถ้าตั้งหลักแบบนี้ได้ นายอัครเดชและพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะพรรครัฐบาล สามารถมีบทบาททำให้ความขัดแย้งเหล่านี้คลี่คลายลง แม้การกระทำที่ผ่านมาของนายอัครเดชและพรรครวมไทยสร้างชาติ จะทำให้ตนคาดหวังได้ยาก แต่ก็ขอฝากให้พิจารณา