"สุพันธุ์" ไม่เห็นด้วย กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย 2.5% ต่อปี (มีคลิป)

2024-02-12 01:30:28

 "สุพันธุ์" ไม่เห็นด้วย  กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย 2.5% ต่อปี (มีคลิป)

Advertisement

"สุพันธุ์" ไม่เห็นด้วย  กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย 2.5% ต่อปี  ทำประชาชน ภาคเอกชนกู้เงินต้องเสียดอกเบี้ยแพง  

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 67  นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% ต่อปี เนื่องจากขณะนี้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบ และการคงดอกเบี้ยนี้ก็ต้องรอไปอีก 3 เดือนกว่าจะมีการประชุม กนง. เพื่อพิจารณาประเด็นนี้อีกครั้ง ทำให้ประชาชนหรือภาคเอกชนที่กู้เงินก็ต้องเสียดอกเบี้ยแพงไปอีก 3 เดือนเช่นกัน ขณะเดียวกันข้อมูลเครดิตบูโรก็พบว่าหนี้ครัวเรือนไม่ลดลงและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจโดยรวมและระดับรากหญ้า

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า นอกจากนี้คำชี้แจงของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ระบุว่าตอนนี้มีการบริโภคเพิ่มขึ้นและกลัวการปล่อยหนี้เพิ่มหากลดดอกเบี้ย นั้น ตนเห็นต่างจาก ธปท. เพราะเห็นว่าทุกวันนี้ประชาชนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจระดับกลางถึงล่างจะกู้หนี้เพิ่ม แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะธนาคารเข้มงวดในการปล่อยกู้กับผู้ลงทุนมากๆ อยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญคือการลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ด้วยการลดดอกเบี้ย ให้ประชาชนอยู่รอด เมื่อดอกเบี้ยสูง ทุกคนก็ต้องหาเงินเพิ่มขึ้น อีกทั้งการที่ดอกเบี้ยสูง ยังทำให้ประชาชนที่กำลังผ่อนรถ ผ่อนบ้าน หรือกู้เงินมาลงทุน แทนที่จะหาเงินมาจ่ายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็ต้องเอาไปจ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เท่ากับรายจ่ายเพิ่ม แต่รายได้คงที่หรือลดลง ทำให้โอกาสที่ประชาชนจะติดลบก็เยอะขึ้น เมื่อติดลบก็กลายเป็นหนี้เสีย พอหนี้เสียก็กลายเป็นดอกเบี้ยผิดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้น มีปัญหาต่อมาเป็นงูกินหาง ส่งผลต่อเศรษฐกิจภาพรวม ช่วงเทศกาลตรุษจีนคนออกไปเดินห้างต่างจังหวัด ไปใช้จ่ายน้อยลง วันเที่ยววันจ่ายก็คึกคักน้อยลง  รายได้ของประเทศเหลือแค่การท่องเที่ยวกับการลงทุน การใช้จ่ายของภาครัฐกว่าจะได้ใช้ก็เดือนพฤษภาคม ก็จะทำให้เศรษฐกิจภาพรวมอืดลงไปเรื่อยๆ ถ้าดอกเบี้ยสูง เศรษฐกิจดี เงินเฟ้อสูง ไม่เป็นไร แต่วันนี้จีดีพีโตอยู่แค่ ร้อยละ 2.8 และเงินเฟ้อ ร้อยละ 1.11 นี่คือหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น เราต้องลดดอกเบี้ยลง ไม่อย่างนั้นเมื่อไรสภาพคล่องจะดีขึ้น

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ตนขอเสนอไปถึงรัฐบาล ว่า วันนี้รัฐบาลควรเข้ามาดูและเอสเอ็มอี ออกมาตราการงดเว้นภาษีนิติบุคคล 3 ปี เพื่อให้กิจการฟื้นตัวได้และเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น และเมื่อเกิดสภาพคล่อง เศรษฐกิจจะหมุนเร็วขึ้นอีกเยอะ ดีกว่าเอาเงินงบประมาณไปทำอย่างอื่น ส่วนมาตรการแก้หนี้สำหรับบุคคลทั่วไป รัฐบาลก็ต้องชัดเจนว่าจะหยุดพักหนี้หรือพักดอกเบี้ยแค่ไหน เพราะตอนนี้เพียงแค่เอาลูกหนี้มาคุยกับเจ้าหนี้ แต่ยังมีลูกหนี้นอกระบบอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ตามข่าว และไม่ได้เข้าร่วมโครงการ