“น้องมิวสิค”เฮ! ได้พบแม่แล้ว

2018-03-21 18:55:24

“น้องมิวสิค”เฮ! ได้พบแม่แล้ว

Advertisement

“น้องมิวสิค”โผกอดแม่ หลังจากถูกปล่อยตัวจากเรือนจำจ.ยะลา เนื่องจากเจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความ ขณะที่ ผวจ.กาฬสินธุ์ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด พร้อมช่วยเหลือเต็มที่ตามโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนส โมเดล “กาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” 

จากกรณีนางประไพนี อาทิกร อายุ 57 ปี ชาว อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ หนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ผ่านศูนย์ดำรงธรรม อ.เขาวง ในโอกาสเดินทางตรวจราชการที่ อ.เขาวง เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2560 หลัง น.ส.วารีรัตน์ สำเร็จงาน อายุ 37 ปี ลูกสาวถูกตำรวจยะลา นำหมายศาลมาจับกุมและควบคุมตัวไปและคุมขังในเรือนจำ จ.ยะลา ซึ่งน้องมิวสิคลูกชาย เขียนจดหมายระบายความในใจถึงแม่ สร้างความสะเทือนใจให้กับเพื่อนบ้านที่พบเห็น กระทั่งนายไกสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ประสานงานกับเรือนจำ จ.ยะลาเปิดวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ให้น้องมิวสิคได้พบแม่ พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือเต็มที่ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น



ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 21 มี.ค. นายไกสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอเขาวง จัดรถตู้พาน้องมิวสิค และญาติไปรับ น.ส.วารีรัตน์ที่สนามบิน จ.อุดรธานี หลังจากถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ จ.ยะลา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมาจากการประสานงานของปลัดกระทรวงยุติธรรม และเจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความ ทั้งทางอาญา และทางแพ่ง



โดยน้องมิวสิค พร้อมญาติพี่น้องรวม 3 คนได้เดินทางด้วยรถตู้ โดยการอำนวยความสะดวกของนายไกสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ที่มอบให้นายอำเภอเขาวงเป็นผู้พาเดินทางไปรับ น.ส.วารีรัตน์ ที่สนามบิน จ.อุดรธานี ส่วนนางประไพนี ไม่ได้มาด้วย เพราะต้องเตรียมจัดงานบายศรีสู่ขวัญที่บ้าน ทั้งนี้น้องมิวสิคได้นั่งรออย่างใจจดใจจ่อและตื่นเต้น ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับซื้อมันฝรั่งและลูกอมมาฝากแม่ ทันทีที่เครื่องบินไลออนแอร์ 990 หาดใหญ่-อุดรธานีลงจอด และน.ส.วารีรัตน์ได้เดินออกมาจากประตูทางออกผู้โดยสาร น้องมิวสิคและน.ส.วารีรัตน์ได้วิ่งโผเข้ากอดแม่ด้วยความดีใจและร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ ท่ามกลางความดีใจของเจ้าหน้าที่และประชาชนที่อยู่ในสนามบิน ก่อนที่จะจูงมือพากันขึ้นรถตู้กลับบ้านที่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งจะมีพิธีบายศรีสู่ขวัญตามประเพณีของชาวผู้ไทย




น.ส.วารีรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ได้ใจเป็นที่สุดที่ได้เจอหน้าลูกชายและได้เจอแม่ ต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่ภาคส่วน และกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะ ผวจ.กาฬสินธุ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เรือนจำ จ.ยะลา เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักงานยุติธรรมทั้ง 2 จังหวัด ตลอดจนสื่อมวลชนที่ช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีฉ้อโกงและยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของตนเอง อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะทำหน้าที่แม่และหน้าที่ลูกให้ดีที่สุด



ด้านนายไกสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณี น.ส.วารีรัตน์ ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ จ.ยะลาแล้ว เนื่องจากเจ้าทุกข์ที่เข้าแจ้งความข้อหาร่วมกันฉ้อโกงนั้นไม่ประสงค์ติดใจเอาความ ทั้งอาญา และแพ่ง และจากการประสานงานของปลัดกระทรวงยุติธรรม สำนักงานยุติธรรม จ.ยะลา และสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเดิมทันทีที่ถูกปล่อยตัวนั้นทางสำนักงานยุติธรรม จ.ยะลาจะพาขึ้นรถมาส่งที่บ้าน จ.กาฬสินธุ์ แต่เนื่องจากระยะทางไกล ประกอบกับน้องมิวสิคคิดถึงแม่มาก ส่วนนางประไพนี ก็คิดถึงลูก เพราะไม่เจอหน้ากันนาน ตนจึงให้ขึ้นเครื่องบินจาก จ.ยะลา มาลงที่ จ.อุดรธานี โดยตนออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด พร้อมกับมอบหมายให้นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอเขาวงจัดรถตู้พาน้องมิวสิค และญาติรับน.ส.วารีรัตน์ที่สนามบิน จ.อุดรธานี สำหรับการให้ความช่วยเหลือนั้นครอบครัวนี้ก็อยู่ในโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนส โมเดล “กาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”ซึ่งเป็นนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน ของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี