"ประเสริฐ" จับมือสมาคมค้าทองคำเร่งปราบหลอกลงทุนทองออนไลน์

2024-02-06 16:50:45

"ประเสริฐ" จับมือสมาคมค้าทองคำเร่งปราบหลอกลงทุนทองออนไลน์

Advertisement


"ประเสริฐ" จับมือสมาคมค้าทองคำเร่งปราบแก๊งหลอกลงทุนทองออนไลน์ เตือนประชาชนระวังเพจปลอม หลอกลงทุนสร้างความเสียหาย

เมื่อวันที่ 6 ก.พ.67 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง  รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม   พร้อมด้วยนายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษา รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายวัลลภ รุจิรากร เลขานุการ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมหารือกับนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำและคณะผู้แทนจากสมาคมค้าทองคำ เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหามิจฉาชีพปลอมแปลงเฟซบุ๊กและเพจผู้ประกอบการร้านทอง หลอกหลวงผู้บริโภค ซึ่งที่ผ่านมาทำให้เกิดความเสียหายคิดเป็นมูลค่ามหาศาล

นายประเสริฐ เปิดเผยว่า สมาคมค้าทองคำได้ประสานขอเข้าพูดคุยสะท้อนปัญหาพร้อมหารือแนวทางแก้ไขปัญหา หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการและผู้บริโภคเป็นจำนวนมากว่าขณะนี้มีมิจฉาชีพปลอมแปลงเฟซบุ๊กเพจร้านค้าทองคำที่มีชื่อเสียงและเป็นสมาชิกของสมาคมค้าทองคำทำการเผยแพร่โฆษณาชักชวนหลอกให้มีการลงทุน และอ้างว่ามีการจ่ายเงินปันผลทุกวัน หรือให้ผลประโยชน์เกินจริงเพื่อจูงใจให้หลงเชื่อส่งผลให้เกิดความเสียหายกับประชาชนผู้บริโภคจำนวนมาก อีกทั้งยังกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อผู้ประกอบธุรกิจค้าทองคำ ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจของประเทศ มิจฉาชีพใช้ช่องโหว่ในการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการหลอกลวงให้มีการลงทุนซื้อทองคำออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มปลอม ทำให้นักลงทุนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า กระทรวงดีอีเอสโดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA และศูนย์แก้ปัญหาหลอกลวงทางออนไลน์ หรือ AOC1441 ซึ่งมุ่งปราบปราบอาญชากรรมออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง จะดำเนินการประสานเพื่อการปิดกั้นแพลตฟอร์มปลอมและรับการร้องเรียนผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากมิจฉาชีพ นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับสมาคมค้าทองคำในการแก้ไขปัญหาระยะยาวรวมถึงมีการเตรียมการพูดคุยถึงความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาร่วมกันกับแฟลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาดด้วย

"ผมหวังว่าการหารือในวันนี้จะเป็นโอกาสสำหรับกระทรวงดีอีเอสและสมาคมค้าทองคำ ในการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหามิจฉาชีพปลอมแปลงเฟซบุ๊กของเพจผู้ประกอบการร้านทอง ทั้งนี้นับตั้งแต่เดือน ม.ค.66 ถึงเดือน 2567 กระทรวงดีอีเอสได้ดำเนินการปิดโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับ Online Scams บนแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ไปแล้วกว่า 30,000 URLs และปิดกั้นเว็บไซต์โดยมีคำสั่งศาล กว่า 1,400 URLs" รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกล่าว

ขณะที่นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนเปลี่ยนจากการเก็บออม เป็นการลงทุนเพื่อการเก็งกำไรในทองคำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีวิธีการลงทุนที่หลากหลาย ทั้งการซื้อขายทองผ่านหน้าร้านทอง การลงทุนทองออนไลน์ รวมถึงการลงทุนทองคำในตลาดซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) อาจเป็นช่องทางหนึ่งที่มิจฉาชีพ ต่างอาศัยชื่อเสียงและความเชื่อมั่น ของผู้บริโภคที่มีต่อร้านค้าทองคำ นำมาหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ และเกิดความเสียหาย โดยตัวอย่างของสมาชิกสมาคมที่ได้รับผลกระทบ อาทิ จินฮั้วเฮง , YLG , ออโรร่า ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงต่อองค์กรโดยรวม ส่งผลทำให้ลูกค้าเกิดความสับสน ขาดความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นของบริษัท ซึ่งสมาคมเสนอให้มีขั้นตอนการปิดเพจปลอม โดยส่งข้อมูลยืนยันว่าเป็นเพจปลอมและแจ้งไปยังสมาคมค้าทองคำ เพื่อประสานงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการปิดเพจปลอมนั้นต่อไป

โดยที่ผ่านมา ในปี 2566-2567 มิจฉาชีพมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นการสร้าง Facebook และ TikTok ปลอมแทน โดยยกตัวอย่าง บจ.ฮั่วเซ่งเฮง มีการตรวจพบครั้งแรกในช่วง เดือนกันยายน 2566 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งบริษัทมีการเก็บข้อมูลการปลอมทั้ง 2 ช่องทางรวมกันทั้งสิ้น 40 บัญชี ดังนี้ 1. Facebook : จำนวน 14 บัญชี 2. TikTok : จำนวน 26 บัญชี โดยบริษัทได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายผ่านช่องทางต่างๆ จำนวน 44 เคส ความเสียหายโดยรวมประมาณ 20.8 ล้านบาท และความเสียหายของ บจ.ออโรร่า มีผู้เสียหายรวมถึง ลูกค้าของบริษัท เป็นจำนวนมาก โดยมีจำนวนผู้เสียหาย ที่ติดต่อเข้ามากับฝ่ายกฎหมายประมาณ 150 คน ค่าเสียหายโดยรวมประมาณ 60 ล้าน

"มิจฉาชีพจะใช้วิธีหลอกลวงผ่านรูปแบบตามกระแสนิยมในแต่ละช่วงเช่นในปี 2565 จะเป็นเรื่องของการลงทุนใน Forex และ Crypto currency ส่วนในปี 2566 จะเป็นเรื่องของการลงทุนหรือการออมแบบ Passive Income เป็นต้น ซึ่งเราสามารถสังเกตสัญญาณเพื่อเตรียมป้องกันได้จากกระแสความสนใจในเรื่องการลงทุนที่มี การเปลี่ยนไปของประชาชน ทางสมาคมขอความร่วมมือกับกระทรวงดีอีเอส ในการป้องกันและปราบปรามปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด” นายจิตติ กล่าว