"วราวุธ"ร่วมฌาปนกิจชิ้นส่วน 23 เหยื่อโรงงานพลุระเบิด (มีคลิป)

2024-02-03 16:47:21

"วราวุธ"ร่วมฌาปนกิจชิ้นส่วน  23 เหยื่อโรงงานพลุระเบิด (มีคลิป)

Advertisement

"วราวุธ-กัญจนา"ร่วมฌาปนกิจชิ้นส่วน  23  เหยื่อโรงงานพลุระเบิด พม.ดูแลครอบครัวผู้สูญเสียอย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 67 ที่วัดโรงช้าง ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา  รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานพิธีฌาปนกิจชิ้นส่วนผู้เสียชีวิต 23 ราย จากเหตุการณ์โรงงานพลุระเบิด และมอบเงินช่วยเหลือจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้กับ 17 ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมพูดคุยให้กำลังใจ โดยมี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.)  นายอุดม โปร่งฟ้า คณะที่ปรึกษา รมว.พม. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัด  พม. พร้อมคณะผู้บริหาร นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี พร้อมคณะผู้บริหาร นายประภัตร โพธสุธน ส.ส.สุพรรณบุรี และเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา และผู้แทนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในพื้นที่ เข้าร่วมพิธี

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อทุกครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบ ในฐานะ รมว.พม. ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา และชาวสุพรรณบุรี  ขอให้กำลังใจต่อทุกครอบครัวผู้สูญเสีย ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนี้ ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่สะท้อนคือทางภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนได้ช่วยกันรวมพลัง แสดงให้เห็นว่าเราพร้อมที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือพี่น้องที่ได้รับผลกระทบ


นายวราวุธ กล่าวว่า ทุกหน่วยงานโดยเฉพาะ พม. กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานอื่นๆ รวมถึง รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หลายคน ที่ได้มาให้กำลังใจครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันจากพี่น้องผู้ได้รับผลกระทบว่า ถึงแม้อุบัติเหตุจะเกิดขึ้น แต่เราทุกคนจะต้องก้าวข้ามความเศร้าโศกนี้ แล้วเราจะก้าวเดินไปด้วยกัน ไปพร้อมกัน สำหรับครอบครัวผู้สูญเสียที่มีเด็กเล็ก และที่กำลังศึกษาอยู่ เราจะดูแลทุกคนให้ได้รับการศึกษาจนถึงระดับที่พอใจ แล้วเราจะทำให้ทุกคนเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญและมีคุณค่าของสังคม

นายวราวุธ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีครอบครัวผู้สูญเสียที่ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิดนั้น ประมาณ 2-3 ครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวเจ้าของโรงงานพลุที่ต้องสูญเสียลูกชาย ทาง  พม. ได้ส่งทีมพม.เข้าไปดูแลติดตามอย่างใกล้ชิด และครอบครัวที่ลูกหลานสูญเสียเสาหลักของครอบครัว ซึ่งต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา และเยียวยาความรู้สึก พม. จะเป็นกำลังใจ และคอยดูแลทั้งด้านร่างกายและจิตใจที่เสียหายอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งต้องขอขอบคุณภาคเอกชน เมื่อรวมพลังกันแล้ว ยอดเงินช่วยเหลือเกือบ 7 ล้านบาท ที่ได้มาสนับสนุนความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหานั้น แน่นอนเงิน 7 ล้านบาท ที่ได้มา เทียบไม่ได้กับชีวิตที่ต้องสูญเสียถึง 23 ราย แต่ว่ากำลังใจจะทำให้ทุกคนสามารถก้าวข้ามความโศกเศร้าและมีกำลังใจในการที่จะเดินหน้ากันต่อไป