"เรืองไกร"ร้อง กกต. ส่งศาล รธน. ยุบ "ก้าวไกล"

2024-02-01 21:43:54

"เรืองไกร"ร้อง กกต. ส่งศาล รธน. ยุบ "ก้าวไกล"

Advertisement

"เรืองไกร"ร้อง กกต. ส่งศาล รธน. วินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ปมล้มล้างการปกครอง ไม่หวั่นสร้างความขัดแย้ง  

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 67  ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิทางการเมือง จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล กระทำการล้มล้างการปกครองโดยใช้การแก้ไขมาตรา 112 เป็นการหาเสียงเลือกตั้ง

นายเรืองไกร กล่าวว่า ที่มาในวันนี้เนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ม.ค.  ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำร้องของผู้ร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 โดยมีผู้ถูกร้อง 2 ราย ประกอบด้วยนายพิธา และพรรคก้าวไกล ซึ่งผู้ร้องใช้สิทธิตามมาตรา 49 เห็นว่ามีบุคคลใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง โดยศาลระบุชัดเจนว่า ผู้ถูกร้องทั้ง 2 ใช้สิทธิเพื่อล้มล้างการปกครองตามมาตรา 49 อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ศาลรัฐธรรมนูญสั่งได้อย่างเดียวคือให้เลิกการกระทำ และวินิจฉัยว่าให้เลิกการกระทำอย่างไร โดยตนเข้าใจว่าห้ามยกเลิกมาตรา 112 และอีกข้อหนึ่งที่เข้าใจคือ การจะแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือกฎหมายอื่นๆ เป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่จะตรากฎหมายใหม่แก้ไขเพิ่มเติม หรือยกเลิก สามารถทำได้แต่ต้องชอบด้วย ดังนั้นถ้าศาลวินิจฉัยตามมาตรา 49 แล้ว คำว่าล้มล้างการปกครองอยู่ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (1) (2) ที่อาจเป็นปฏิปักษ์ ซึ่งในกรณีนี้ มีพรรคเดียวที่เคยโดนคือพรรคไทยรักษาชาติ  ตนจึงยื่นเรื่องขอให้ กกต. นำผลคำวินิจฉัยดังกล่าวของศาลเมื่อวาน ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 (1) (2) อย่างไรก็ตาม คำวินิจฉัยในคดีดังกล่าว จะผูกพันถึง กกต. ที่ต้องทำตามหน้าที่ เพราะถือเป็นความปรากฏ ส่วนองค์กรที่ 2 คือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ถูกร้องเป็น สส. 44 คน ว่าใช้สิทธิและเสรีภาพ ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนได้เคยยื่นเรื่องไปแล้วเมื่อปี 2564  ซึ่งนี่เป็นการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานไม่ได้มีความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ หรือนำความเห็นส่วนตัวมาร้องแต่อย่างใด 

เมื่อถามว่าคำวินิจฉัยนี้จะส่งผลต่อพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เคยใช้การแก้ไขมาตรา 112 ในการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเก็บรวบรวมข้อมูลอยู่ ฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง หากมีน้ำหนักพอก็จะยื่นเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ ทั้งนี้รวมถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เคยหาเสียงในประเด็นแก้ไขมาตรา 112  ต่อข้อถามว่าพรรคก้าวไกลจะถูกยุบหรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า ไม่น่าจะรอด เพราะศาลวินิจฉัยว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ซึ่งก็จะส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีด้วย