หากจะพูดถึงเรื่องของการทำประกัน หนึ่งในรูปแบบประกันที่น่าสนใจและถูกหยิบขึ้นมาเป็นสวัสดิการของหลายๆ องค์กรที่จัดสรรให้กับพนักงานแล้วละก็ ประกันกลุ่มก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงความสนใจที่ทำให้พนักงานตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับองค์กรนั้นๆ แต่ถ้าหากจะให้แจกแจงรายละเอียดยิบย่อยเกี่ยวกับเงื่อนไขของประกันกลุ่มและสิทธิ์ที่ผู้เอาประกันควรได้รับนั้นจะมีอะไรที่ควรทราบเอาไว้บ้าง บทความนี้มีข้อมูลดีๆ มาฝากผู้เอาประกันทุกท่าน
เงื่อนไขการคุ้มครอง
มาเริ่มกันที่สิ่งสำคัญประการแรกเกี่ยวกับประกันกลุ่มที่ผู้เอาประกันควรทราบนั่นก็คือเงื่อนไขของการคุ้มครองในประกันกลุ่ม ตามจริงแล้วหลักๆ ก็จะแบ่งออกเป็น 2 เงื่อนไข ได้แก่การคุ้มครองประกันกลุ่มสำหรับผู้ป่วยนอก และเงื่อนไขการคุ้มครองประกันกลุ่มสำหรับผู้ป่วยในที่จะคุ้มครองค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าห้องพัก ค่ายา ค่ารักษา ทั้งนี้แนะนำให้ผู้เอาประกันศึกษาเงื่อนไขของประกันกลุ่มในแต่ละฉบับเอาไว้ให้ดี สังเกตง่ายๆ จากหน้าบัตรประกันกลุ่มก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น OPD ที่บ่งบอกจำนวนครั้งของการคุ้มครองการเจ็บป่วย IPD บ่งบอกวงเงินการคุ้มครองค่าห้องว่าอยู่ที่วันละเท่าไหร่ หรือ Accident ที่บอกจำนวนการคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุ
เบี้ยประกันกลุ่ม
หลังจากทราบเงื่อนไขการคุ้มครองแล้ว สิ่งถัดมาที่ควรทราบนั่นก็คือเบี้ยประกันกลุ่มที่ให้การคุ้มครองตัวผู้เอาประกันเอง โดยทั่วไปแล้วส่วนใหญ่ค่าเบี้ยก็มักจะใกล้เคียงกับประกันชีวิตส่วนบุคคล แนะนำให้ศึกษารายละเอียดให้ดีว่าเบี้ยประกันกลุ่มราคาเท่านี้ที่บริษัทส่งให้ เราในฐานะของผู้เอาประกันมีสิทธิ์การรักษาได้แก่อะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเบิกจ่ายในแต่ละครั้งกรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก สิทธิ์การเบิกรักษาค่าทันตกรรม สามารถเฉลี่ยจำนวนเบี้ยได้ว่าต้องการให้เทน้ำหนักไปที่ส่วนใดมากกว่ากัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางด้านสุขภาพของผู้เอาประกันแต่ละท่านนั่นเอง
สถานพยาบาลที่เข้ารักษา
มาจนถึงสิ่งที่ควรทราบลำดับสุดท้ายเกี่ยวกับประกันกลุ่มนั่นก็คือนอกเหนือจากโรงพยาบาลใหญ่ๆ ที่ได้มีการผูกปิ่นโตทำเงื่อนไขกับบริษัทประกันเอาไว้แล้ว คลินิกหรือสถานพยาบาลเล็กๆ สามารถใช้ประกันกลุ่มในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้หรือไม่ คำตอบก็คือขึ้นอยู่กับว่าสถานพยาบาลหรือคลินิกนั้นๆ เป็นคู่สัญญากับบริษัทประกันกลุ่มนั้นๆ หรือไม่ หากใช่ ผู้เอาประกันสามารถใช้ประกันกลุ่มในการเข้ารักษาได้เลย ไม่จำเป็นต้องสำรองค่าใช้จ่าย หรือถ้าหากไม่ใช่และมีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษากับสถานพยาบาลนั้นๆ ก็แนะนำให้ขอเอกสารรับรองการรักษาหรือใบรับรองแพทย์ ตลอดไปจนถึงเอกสารยืนยันค่าใช้จ่ายเพื่อใช้ขอเคลมค่ารักษาย้อนหลังนั่นเอง
ในท้ายที่สุดแล้ว ทุกๆ เงื่อนไขการทำประกัน รวมไปถึงประกันกลุ่มเองก็มักจะมีตัวแทนประกันคอยให้คำปรึกษาและตอบคำถามในกรณีที่ผู้เอาประกันมีข้อสงสัยอยู่แล้ว แนะนำให้ขอเบอร์ติดต่อสำรองเอาไว้เนิ่นๆ จะดีกว่า เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรือมีข้อสงสัยจะได้สามารถสอบถามจากตัวแทนประกันได้โดยตรง