ในยุคดิจิทัลที่ผู้คนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น การเขียนบทความ SEO จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของเว็บไซต์หรือธุรกิจออนไลน์ที่ต้องการดึงดูดคนเข้าเว็บไซต์และสร้างยอดขายให้กับสินค้าหรือบริการของตน
บทความ SEO คือ บทความที่เขียนขึ้นโดยมีเป้าหมายให้ติดอันดับต้น ๆ บนผลการค้นหาของ Google โดยบทความ SEO ที่ดีควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- เนื้อหามีคุณภาพและมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน
- ใช้คำหลัก (Keyword) ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
- มีโครงสร้างและการจัดเรียงเนื้อหาที่ดี
- มีการใช้ Internal Link และ External Link อย่างเหมาะสม
เทคนิคเขียนบทความ SEO ให้ได้ผล
1. เลือกคำหลัก (Keyword) ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
การเลือกคำหลักเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการเขียนบทความ SEO หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ “Keyword Research” คือ การวิเคราะห์หาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม โดยในการเลือกคีย์เวิร์ด ควรคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการจะสื่อสารด้วย ซึ่งคีย์เวิร์ดที่ดีควรเป็นคำที่ผู้คนค้นหาบ่อย ๆ และมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบทความ
ปัจจุบัน มีเครื่องมือการตลาดหลายอย่างที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำ Keyword Research เช่น Google Keyword Planner หรือ Ubersuggest ที่มีฟีเจอร์ให้เราสามารถค้นหาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับบทความบนเว็บไซต์ของตนเองได้
2. เขียนเนื้อหาคุณภาพและมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน
เนื้อหาเป็นหัวใจสำคัญของบทความ SEO ซึ่งหากยึดตามหลักของ Google แล้ว อัลกอริทึมจะมองว่าเนื้อหาที่ดีควรเป็นเนื้อหาที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน กล่าวคือ ควรมีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และมีความน่าสนใจ นอกจากนี้ เนื้อหาควรมีความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่เลือกไว้ โดยต้องมีการใช้คีย์เวิร์ดอย่างเหมาะสมกระจายอยู่ทั่วทั้งบทความ
3. มีโครงสร้างและการจัดเรียงเนื้อหาที่ดี
โครงสร้างและการจัดเรียงเนื้อหาที่ดีจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายและรวดเร็ว โดยบทความควรมีหัวข้อย่อยและย่อหน้าย่อยอย่างชัดเจน ตลอดจนมีการใช้ภาพประกอบและวิดีโอประกอบเนื้อหาอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้เนื้อหามีความน่าสนใจและเข้าใจง่ายขึ้น
4. ใช้ Internal Link และ External Link อย่างเหมาะสม
Internal Link และ External Link เป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยให้บทความติดอันดับบนผลการค้นหาของ Google โดย Internal Link เป็นลิงก์ที่เชื่อมโยงจากบทความหนึ่งไปยังอีกบทความหนึ่งบนเว็บไซต์ของเราเอง ส่วน External Link คือ ลิงก์ที่เชื่อมโยงจากบทความของเราไปยังเว็บไซต์อื่น
การใช้ Internal Link และ External Link อย่างเหมาะสมจะช่วยให้ Google เข้าใจว่าเนื้อหาของเรามีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาอื่น ๆ บนอินเทอร์เน็ตอย่างไร และจะช่วยให้บทความมีอันดับที่สูงขึ้นบนผลการค้นหา
5. เขียนบทความอย่างสม่ำเสมอ
การเขียนบทความอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ Google เข้าใจว่าเว็บไซต์ของเรามีเนื้อหาที่อัปเดตอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังช่วยให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ Google จะนำมาพิจารณาและจัดอันดับเว็บไซต์ของเราให้สูงขึ้น
ตัวอย่างเทคนิคการเขียนบทความ SEO
- ชื่อบทความ - ควรมีความน่าสนใจและดึงดูดผู้อ่านให้คลิกเข้ามาอ่าน มีความยาวไม่เกิน 60 ตัวอักษร และต้องประกอบไปด้วยคีย์เวิร์ดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
- คำนำ - เป็นส่วนที่จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาของบทความ ควรมีความยาวไม่เกิน 300 คำ และมีการกล่าวถึงคีย์เวิร์ดที่เลือกไว้
- เนื้อหาหลัก - เป็นส่วนที่จะช่วยให้ผู้อ่านได้รับความรู้หรือข้อมูลที่ต้องการ โดยเนื้อหาหลักควรมีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และมีความน่าสนใจ
- Internal Link - ควรมีอยู่ในเนื้อหาหลัก โดยใช้เชื่อมโยงไปยังบทความอื่น ๆ บนเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบทความที่กำลังเขียนอยู่
- External Link - ควรมีอยู่ในเนื้อหาหลัก โดยใช้เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบทความที่กำลังเขียนอยู่
- สรุป - เป็นส่วนที่จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาของบทความอีกครั้ง ควรมีความยาวไม่เกิน 200 คำ
ข้อควรระวังในการเขียนบทความ SEO
ในการเขียนบทความ SEO ต้องหลีกเลี่ยงการทำสิ่งต่อไปนี้
- การใช้คีย์เวิร์ดมากเกินไป
- การเขียนเนื้อหาที่ซ้ำซาก
- การเขียนเนื้อหาที่ไม่เป็นธรรมชาติ
การเขียนบทความ SEO เป็นทักษะที่สำคัญสำหรับเจ้าของเว็บไซต์หรือธุรกิจออนไลน์ที่ต้องการดึงดูดคนเข้าเว็บไซต์และสร้างยอดขายให้กับสินค้าหรือบริการของตน หากสามารถปฏิบัติตามเทคนิคเหล่านี้ได้ บทความของเราก็มีโอกาสที่จะติดอันดับบนผลการค้นหาของ Google และดึงดูดคนเข้าเว็บไซต์ได้มากขึ้น