"เสรี" ลั่นไม่ล็อบบี้สกัด ส.ว.ลงชื่ออภิปรายรัฐบาลครบนานแล้ว

2024-01-15 12:02:21

"เสรี" ลั่นไม่ล็อบบี้สกัด  ส.ว.ลงชื่ออภิปรายรัฐบาลครบนานแล้ว

Advertisement

"เสรี"ลั่นไม่ล็อบบี้สกัด  ส.ว.ลงชื่ออภิปรายรัฐบาลครบไปนานแล้ว  ขอทำประโยชน์ทิ้งทวนก่อนหมดวาระ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15ม.ค.2567 ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่มีคนสกัด คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา  ไม่ให้ลงชื่ออภิปรายในการรวบรวมรายชื่อ ส.ว.  เพื่อยื่นขอเปิดอภิปรายรัฐบาลทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ว่า การที่จะเปิดอภิปรายได้นั้น จะต้องมีสมาชิกมาลงชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 คือ 84 เสียง ในช่วงเวลาดังกล่าวเราได้เอาญัตติให้สมาชิกไปศึกษาเพื่อให้เห็นประโยชน์ที่จะมีต่อประชาชน แต่ปรากฏว่าสมาชิกหลายคนไม่รับรองให้หรือไม่ร่วม

"บางคนก็พูดกันตรงๆว่ามีคนขอกันบ้าง มีพวกกันบ้าง ซึ่งเราพยายามอธิบายว่าเป็นเรื่องของหน้าที่สมาชิกวุฒิสภา จึงเป็นความยากลำบากอยู่ระดับหนึ่งว่า จาก ส.ว. 250 คน ต้องใช้ 84 เสียง จริงๆถ้าไม่มีใครมาล็อบบี้ปล่อยตามธรรมชาติก็ครบไปนานแล้ว เพราะสิ่งที่เราทำไม่ใช่การจะไปล้มรัฐบาลแต่เป็นเรื่องที่สว.เสนอญัตติเพื่อให้รัฐบาลมาชี้แจงหาทางออกของประเทศใน 7 ประเด็น ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ใครก็ตามที่มีแนวคิดจะไม่ให้มีผู้สนับสนุนญัตติครบ ผมว่าคิดผิด หากรัฐบาลตอบได้สามารถที่จะดำเนินการตามที่เสนอญัตติไปก็เป็นเครดิตของรัฐบาล อย่าไปปิดกั้น ควรจะให้ ส.ว. ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้" นายเสรี กล่าว

เมื่อถามว่า เมื่อเช้านี้นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว.  ได้ระบุว่าได้รับการประสานมาว่าขณะนี้มีเสียงเกิน 90 แล้ว สรุปแล้วเสียงถึงหรือไม่ นายเสรีกล่าวว่า ตอนนี้เป็นความหวังเรานำข้อมูลให้สมาชิกได้อ่าน ในปัจจุบันมีผู้แจ้งความจำนงไว้ประมาณ 80 คนแล้ว ซึ่งตนมองว่าน่าจะเปิดอภิปรายได้ เราพยายามจะทำให้ได้ เพราะเป็นภาพลักษณ์ภาพรวมของสมาชิกวุฒิสภาที่ไม่อยู่ใต้อาณัติใคร ซึ่งอป็นประโยชน์กับบ้านเมืองในช่วงเวลาสุดท้ายที่สว.ใกล้จะหมดวาระแล้ว เราตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดถือเป็นผลงานสุดท้ายที่เราพยายามทำเพื่อประชาชนแม้ว่าเราจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ในความรับผิดชอบในอำนาจหน้าที่เป็นสิ่งที่วุฒิสภาควรจะต้องทำ

เมื่อถามว่าจะมีการทบทวนหรือไม่ที่สว.ยกมือให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นนายกรัฐมนตรี นายเสรี กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน ตอนตั้งรัฐบาลก็ตั้งไป แต่ตอนทำหน้าที่ตรวจสอบก็เป็นอีกหน้าที่หนึ่ง ขณะนี้เราดูการทำงานในช่วงเวลา 4 เดือนว่าต้องมีอะไรทักท้วงหรือเสนอแนะบ้าง

เมื่อถามถึง กรณีที่มีความกังวลว่าไม่ให้ ส.ว. แตะเรื่องคนชั้น 14 นายเสรี กล่าวว่า มีหลายเรื่องในส่วนกระบวนการยุติธรรมก็ส่วนหนึ่ง ส่วนเรื่องของเศรษฐกิจการแจกเงินดิจิทัลก็ส่วนหนึ่ง ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญก็ส่วนหนึ่ง เพราะฉะนั้นตนมองว่าการนำมาพูดกันในสภาก็เป็นเรื่องที่ดีที่เป็นทางการ ซึ่งเป็นส่วนของอำนาจหน้าที่ที่เราต้องทำ

เมื่อถามว่า นอกจากการล็อบบี้ยังมีสาเหตุอื่นอีกหรือไม่ที่ทำให้ ส.ว. ไม่ร่วมลงชื่อในการเปิดอภิปราย นายเสรี กล่าวว่า ก็แล้วแต่บุคคล เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องธรรมดา แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาคือ การสกัดกั้นในกระบวนการทางการเมือง ซึ่งไม่ควรทำมีแต่ความเสียหายปล่อยให้แต่ละฝ่ายต่างทำหน้าที่ รัฐบาลก็บริหารประเทศไป

ต่อช้อถามว่า มีการไปขอเสียงสว.ในส่วนของผู้นำเหล่าทัพหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า เราต้องเข้าใจว่าเขาเป็นราชการ ไม่อยากยุ่งเรื่องการเมืองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ารัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้ทำหน้าที่เราต้องเข้าใจตรงนั้น เรารู้ผลอยู่แล้วไปขอเขาก็ไม่ลงชื่ออยู่แล้ว