"โมเดลลิ่งดัง" โร่แจ้งความถูกมิจฉาชีพปลอมเฟซบุ๊ก แชทคุยเรื่องงาน เตือนระวังตกเป็นเหยื่อ

2024-01-10 19:55:59

"โมเดลลิ่งดัง" โร่แจ้งความถูกมิจฉาชีพปลอมเฟซบุ๊ก แชทคุยเรื่องงาน เตือนระวังตกเป็นเหยื่อ

Advertisement

เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 นายณัฐวุฒิ ร่องดุสิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท PR Artist & Entertainment ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่า ถูกมิจฉาชีพสร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอมเป็นภาษาอังกฤษว่า "Natthawut Rong-dusit" พร้อมนำภาพถ่ายของตัวเขาไปตั้งเป็นรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊ก และรูปถ่ายในอริยาบถอื่นๆ โดยเฉพาะรูปที่เกี่ยวข้องกับงานโมเดลลิ่ง-หานักแสดงไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กปลอมที่สร้างขึ้นมา นอกจากนี้มิจฉาชีพรายนี้ยังได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอม แชทข้อความไปหาบุคคลใกล้ชิด แอบอ้างเป็นตัวเขาพูดคุยในเรื่องงานอีกด้วย ซึ่งทำให้คนอื่นเกิดความเข้าใจผิดและอาจได้รับความเสียหายตามมา โดยหลังจากทราบเรื่องตนได้เดินทางลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ที่สน.โคกคราม โดยมี ร.ต.ท.ชยุตม์ บุญละเอียด รองสว.(สอบสวน) สน.โคกคราม บก.น.2บช.น. เป็นผู้รับแจ้งความ



นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนมีเฟซบุ๊กบัญชีเดียว ชื่อ "ณัฐวุฒิ ร่องดุสิต" โดยมีผู้ติดตามประมาณ 1.7 หมื่นราย ขณะที่บัญชีเฟซบุ๊กปลอมที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมามีประมาณ 1 พันราย ดังนั้นจึงขอเตือนบุคคลใกล้ชิด ระวังอย่าหลงเชื่อ ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพอย่างเด็ดขาด และหากมีการนำบัญชีเฟซบุ๊กปลอม "Natthawut Rong-dusit" ไปทำการหลอกลวงผู้อื่น หรือ นำไปกระทำการผิดกฎหมายจะถือว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า การแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น เพื่อหลอกยืมเงิน หรือสร้างคอนเทนต์ปลอมเพื่อหวังเอายอดไลค์ ยอดวิว จะเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายดังนี้




กรณี การแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น แล้วส่งข้อความเพื่อหลอกยืมเงิน

-ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 (1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



-ฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 140,000 บาท

กรณี การแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น แล้วส่งข้อความเพื่อหลอกยืมเงิน หรือการสร้างคอนเทนต์ปลอมเพื่อหวังเอายอดไลค์ยอดวิว

-นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ