"ชัยชนะ" เผย รพ.ตำรวจไฟเขียว กมธ.ดูงานชั้น 14 แล้ว

2024-01-10 12:50:06

 "ชัยชนะ" เผย รพ.ตำรวจไฟเขียว กมธ.ดูงานชั้น 14 แล้ว

Advertisement

"ชัยชนะ" เผย รพ.ตำรวจไฟเขียว กมธ.ดูงานชั้น 14 แล้ว ไม่แน่ใจได้ดูตัว "ทักษิณ" หรือไม่  เตือนถ้าล่องหนต้องตอบสังคมให้ได้

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 67 ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)  ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการนำ กมธ. ไปศึกษาดูงานที่ชั้น 14  รพ.ตำรวจ ในวันที่ 12 ม.ค. ว่า ขณะนี้ได้รับหนังสือตอบรับจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์(สบ.8) รพ.ตำรวจแล้ว ซึ่งทาง รพ.ตำรวจ  ให้  กมธ. เดินทางไปถึงในเวลา 10.00 น. และมอบหมายให้ พ.ต.อ.สฤษติ์ พุทธพงษ์ศิริพร ผู้กำกับการฝ่ายยุทธศาสตร์ กองบังคับการอำนวยการ รพ.ตำรวจ เป็นผู้ประสานงานในการศึกษาดูงาน ทั้งนี้ ในการเริ่มต้นศึกษาดูงานของ กมธ.จะเริ่มที่อาคารศรียานนท์ รพ.ตำรวจ เป็นที่แรก หลังจากนั้นจะมีการสอบถามขั้นตอนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่มาเป็นผู้ป่วยของ รพ.ตำรวจ มีขั้นตอนรับเข้าอย่างไร การดูแลผู้ต้องขังมีวิธีการอย่างไร มีการเข้าเวรของเจ้าหน้าที่ทุกกี่ชั่วโมง บันทึกภาพกี่ชั่วโมง นอกจากนี้กมธ.จะได้สอบถามนักโทษทุกคนที่อยู่ที่นั่น รวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วย

เมื่อถามว่า เบื้องต้นได้ให้สื่อมวลชนติดตามไปทำข่าวด้วยหรือไม่ ประธาน กมธ.ตำรวจ กล่าวว่า สื่อมวลชนสามารถมารอทำข่าวได้บริเวณด้านหน้า เนื่องจาก รพ.ตำรวจ อนุญาตให้เฉพาะ กมธ.เท่านั้นสามารถเข้าไปประชุมในห้องประชุม หลังจากนั้นเมื่อทราบผล เราจะมาแถลงให้ทราบอีกครั้งต่อไป

เมื่อถามถึงเป้าหมายของ กมธ.เพื่อไปติดตามนายทักษิณว่ายังอยู่ชั้น 14  รพ.ตำรวจเท่านั้นหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า เราต้องใช้คำว่าไปดูผู้ต้องขังคนอื่นๆด้วย และศึกษาวิธีการดูแลผู้ต้องขังคนอื่นกับนายทักษิณเหมือนกันหรือไม่ มีความแตกต่างกันอย่างไร ผู้ต้องขังคนอื่นพักอยู่ห้องไหน ทำไมนายทักษิณถึงพักอยู่ที่ชั้น14 เราต้องดูข้อแตกต่างตรงนี้

“ผมขอฝากไปถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ขณะนี้ยังไม่ได้ตอบกลับในหนังสือมา ท่านคิดทบทวนให้ดี ท่านต้องให้ความร่วมมือกับกมธ.ตำ รวจ ท่านตอบมาว่าท่านมีความเห็นอย่างไร ขณะนี้ รพ.ตำรวจ ตอบมาแล้ว แต่ท่านเป็นเจ้าของไข้ของผู้ต้องขัง ที่ไปรักษาตัว แต่ท่านยังไม่ตอบ มิเช่นนั้นท่านจะเป็นจำเลยของสังคมแบบนี้ไปตลอดชีวิต” ประธาน กมธ.ตำรวจ กล่าว

เมื่อถามว่า หากพบว่ามีการเอื้อต่ออภิสิทธิ์ชนจริง กมธ.ตำรวจจะดำเนินการอย่างไรต่อ นายชัยชนะ กล่าวว่า จะดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายที่มีอยู่ว่าเอื้อหรือไม่ ระเบียบข้อไหนที่รองรับ เหมือนที่ตนเคยกล่าวไปในการรักษาตัวของผู้ต้องขัง ใช้งบประมาณของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และทางกรมราชทัณฑ์ เคยระบุว่าหากรักษาเกินงบประมาณของ สปสช. สามารถใช้เงินส่วนตัวได้ ตนจึงแจ้งให้นำระเบียบมาดู เราได้ทำหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ ให้ส่งเอกสารที่เราขอไปทั้งหมด และเราต้องดูเอกสารตัวนี้ก่อน

ต่อข้อถามว่า ต้องสอบถามอาการป่วยของนายทักษิณด้วยหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า อาการป่วย ป่วยแค่ไหน ตรงนี้ตอบไม่ได้อยู่แล้ว เพราะทางแพทยสภาชี้แจงไว้ชัดเจนว่าเป็นกฎหมายที่สงวนไว้เฉพาะผู้ป่วย แต่โรคของผู้ป่วย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคปอด สามารถบอกได้ แต่ป่วยแค่ไหน ไม่สามารถบอกได้ ประเด็นคือต้องดูที่ขั้นตอนว่ามีนักโทษกี่คนที่ไปรักษาตัวที่ชั้น  14 ห้องไหนบ้าง การปฏิบัติเป็นอย่างไร ตรงนี้ตนคิดว่าเป็นกุญแจสำคัญมากกว่า

เมื่อถามอีกว่า มีโอกาสที่เจอกับนักโทษทุกคนหรือไม่ ประธาน กมธ.ตำรวจ กล่าวว่า ต้องดูระเบียบ รพ.ตำรวจ ว่าเมื่อเราเข้าไปแล้ว เข้าให้เราเข้าไปแค่ไหน เช่น ให้ดูตัวตนเลยหรือไม่ หรือให้ดูผ่านกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวีที่บันทึกในห้องนั้น ขึ้นอยู่กับ รพ.ตำรวจ  ตนคิดว่าเมื่อ กมธ.เดินทางไปถึง จะมีการแลกเปลี่ยนสนทนาเรื่องนี้กันก่อน จากนั้นจะลงพื้นที่ไปดูข้อเท็จจริง

เมื่อถามย้ำว่า หากวันที่ 12 ม.ค.ไม่เจอคนที่ชั้น 14 จะทำหนังสือไปจนกว่าจะเจอหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ถ้าไม่อยู่จริง  รพ.ตำรวจ ต้องตอบสังคมให้ได้ว่าอยู่ที่ไหน หรือกรมราชทัณฑ์อยู่หรือไม่ แต่ถ้าอยู่จริง เราก็ต้องบอกสังคมว่าเราเห็นแล้วว่าอยู่อย่างไร วันนี้ตนคาใจกรมราชทัณฑ์ที่ยังไม่ตอบหนังสือ ถึงแม้กรมราชทัณฑ์ไม่ตอบ แต่ รพ.ตำรวจ  อนุญาตแล้ว เราก็ไปได้ ต้องของคุณ  พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และ  รพ.ตำรวจที่ให้ความร่วมมือกับ กมธ. ส่วนถ้าหากพบนายทักษิณจะพูดว่าอย่างไรนั้น เอาไว้ให้ถึงวันนั้นก่อน ถ้าพูดตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าติดตาม