"อาสพลธ์"พาชาวศรีสะเกษบุก มท.ร้องจัดสอบพนักงานท้องถิ่นส่อทุจริต

2024-01-05 15:26:05

 "อาสพลธ์"พาชาวศรีสะเกษบุก มท.ร้องจัดสอบพนักงานท้องถิ่นส่อทุจริต

Advertisement

"อาสพลธ์"พาชาวศรีสะเกษบุก มท.ร้องกระบวนการจัดสอบพนักงานส่วนท้องถิ่นปี 67 ส่อทุจริต ด้านโฆษก มท. ย้ำนโยบาย  มท.1  การสอบทุกสนามต้องโปร่งใส  เตือน ปชช.อย่าหลงกล หลงเชื่อการเรียกรับผลประโยชน์ คาดโทษทั้งแพ่ง อาญาผู้เกี่ยวข้อง หากเป็นข้าราชการแถมโทษวินัยร้ายแรงไม่มีละเว้น

เมื่อวันที่ 5 ม.ค.67 ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมชาวบ้าน จ.ศรีสะเกษ เข้าพบ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไท  เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ที่มีข้อกังวลเกี่ยวกับกระบวนการจัดสอบพนักงานส่วนท้องถิ่น ที่อาจมีการทุจริต เรียกรับผลประโยชน์ ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เสียประโยชน์ไม่ได้คนที่มีคุณภาพเข้าทำงาน ส่วนประชาชนที่ต้องการให้ลูกหลานเข้าทำงานก็ต้องยอมเสียเงิน บางรายมีการกู้หนี้ยืมสิน  มาจ่ายให้กับผู้เรียกรับผลประโยชน์จากกระบวนการสอบและมีความกังวลเกี่ยวกับกระบวนการจัดสอบในปี 2567 ที่เดิมจะมีการเปลี่ยนมหาวิทยาลัยที่ดำเนินการจัดสอบ แต่ล่าสุดทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นมหาวิทยาลัยเดิมที่เป็นผู้จัดสอบทุกปีและมีกรณีสงสัยว่ามีความไม่โปร่งใสหรือไม่ จึงเกิดความวิตกว่ากระบวนการคัดเลือกจะยังคงมีปัญหาเช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งในการรับเรื่องร้องเรียนได้เชิญผู้แทนจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ารับฟังและรับเรื่องจากพี่น้องประชาชนด้วย

ด้าน  น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้เน้นย้ำนโยบายว่าจะกระบวนการสอบไม่ว่าจะเป็นข้าราชการของหน่วยงานใดภายใต้กระทรวงมหาดไทยจะต้องโปร่งใส ไร้ทุจริต พร้อมกับกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น(สถ.) คณะกรรมการกลางสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น เพิ่มความเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว ด้วยการกำหนดมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น รัดกุม พร้อมขอให้ผู้ที่สมัครสอบระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อ และตกเป็นเหยื่อของการกระทำผิดกฎหมาย และย้ำเตือนพี่น้องประชาชนว่าอย่างยิ่งการหลงเชื่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีลักษณะแอบอ้าง หลอกลวง รับผลประโยชน์จากการสอบข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่มีแผนจะเปิดรับสมัครสอบแข่งขันในปี 2567

"หากพบบุคคลหรือกลุ่มบุคคลมีพฤติการณ์แอบอ้างว่าจะสามารถทำให้สอบเป็นพนักงานส่วนท้องถิ่น หรือเรียกรับผลประโยชน์อื่นใด ขอให้แจ้งเบาะแสมาที่กระทรวงมหาดไทย ผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 และยิ่งถ้ามีหลักฐาน เช่น บันทึกภาพและคลิปวิดีโอด้วยโทรศัพท์มือถือ สามารถส่งมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นหลักฐานในการเอาผิดซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นผู้แอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์ ผู้เข้าสอบ ผู้ดำเนินการจัดสอบหากพบว่าทำผิดจริง มีทั้งโทษทางแพ่งและอาญา และหากผู้เข้าไปเกี่ยวข้องเป็นข้าราชการต้องมีโทษวินัยร้ายแรง ให้ออกจากราชการแบบไม่มีละเว้น และท่าน มท.1 ยังได้กำชับให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นว่า หากได้รับเรื่องร้องเรียน ขอให้เร่งตรวจสอบอย่างเข้มงวด เร่งหาหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ถ้ามีความผิดจริงให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด หรือหากเป็นการปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการ จะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีความผิดตามกฎหมายด้วยเช่นกัน" น.ส.ไตรศุลี กล่าว

นายอาสพลธ์ กล่าวภายหลัง การร่วมกับประชาชนเข้าร้องเรียนกับกระทรวงมหาดไทยว่า ข้อกังวลกรณีหน่วยงานที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้จัดการสอบ ตนได้ประสานมายังกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นชี้แจงต่อสังคมให้ชัดเจนถึงหลักการในการดำเนินการสอบ ตั้งแต่หลักเกณฑ์ วิธีการ กระบวนการคัดเลือก ทั้งนี้ ตนเห็นว่าในการดำเนินการจัดสอบครั้งต่อไป ขอให้ยึดกระบวนการสอบของข้าราชการพลเรือนสามัญที่ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เป็นผู้ดำเนินการจัดสอบภาค ก. แทน หรือหากเป็นไปได้ก็อาจจะพิจารณาเปลี่ยนแปลงแก้ไขหลักเกณฑ์ เพื่อให้มีสามารถดำเนินการจัดสอบได้ทันในครั้งนี้

นายอาสพลธ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับทราบจากกระทรวงมหาดไทยว่าขณะนี้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกำลังจะมีการดำเนินการลงนาม MOU ร่วมกับทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อมีการวางแผนและแนวทางการดำเนินการกับผู้ที่เรียกรับผลประโยชน์จากการสอบข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นที่จะมีการจัดสอบในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งตนและประชาชนในพื้นที่จะมีการติดตามการดำเนินการกรณีนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป