นายกฯแจงความจำเป็นโครงการแลนด์บริดจ์

2024-01-04 14:12:01

นายกฯแจงความจำเป็นโครงการแลนด์บริดจ์

Advertisement

นายกฯแจงความจำเป็นโครงการแลนด์บริดจ์หวังดึงนักลงทุน สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน   

เมื่อเวลา  12.00 น. วันที่ 4 ม.ค. 67  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เดินทางมาถึงรัฐสภา  และเข้าห้องประชุมได้ชี้แจงประเด็นการอภิปรายเรื่องของโครงการแลนด์บริดจ์ โดยได้ขยายความ เนื่องจากมีการพูดคุยกันในวงกว้าง เป้าหมายประเทศต้องการเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าหลายชนิดโดยเฉพาะอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งมีการทำท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังที่ขณะนี้ดำเนินการสร้างไปถึงเฟสที่ 3 ซึ่งปริมาณสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นในช่วง 15 ปีข้างหน้า จะต้องใช้เส้นทางขนส่งทางเรือ และช่องแคบมะละกาไม่สามารถที่จะรองรับบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การที่ทำแลนด์บริดจ์เป็นการแบ่งเบาภาระ ศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยขึ้นไปอีก โดยเฉพาะน้ำมันขนส่งทั่วโลก 60% ที่ผ่านช่องแคบมะละกา ถือเป็นสินค้าหลักที่ทั่วโลกมีความต้องการสูง หากช่องแคบมะละกามีความคับแคบเรื่องการขนถ่ายสินค้าก็จะเกิดปัญหา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลตระหนักดีถึงคิดทำแลนด์บริดจ์ และจุดยืนด้านการขนส่ง ประเทศไทยมีความเป็นกลางความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับสหัฐอเมริกา มีความรุนแรงเกิดขึ้นแต่ทั้ง2ประเทศก็ยังคงต้องค้าขายประเทศไทยที่เป็นกลางการเสนอตัวทำแลนด์บริดจ์ ให้เชื่อมต่อโลกทั้งโลกจีนกับสหรัฐสามารถใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางขนถ่ายสินค้าได้เป็นอย่างดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่าเป็นเรื่องจำเป็น และรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือเพิกเฉยต่อเสียงของประชาชนในพื้นที่ โดยจะดำเนินการสำรวจความคิดเห็นและรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกฝ่ายฝ่ายค้าน ภาคประชาชน ประชาสังคมและนักธุรกิจทุกคน เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการนี้จะเป็นโครงการเมกกะโปรเจคที่มีความสำคัญโครงการหนึ่งของโลก  ข้อดีการทำโครงการแลนด์บริดจ์ ที่จะดึงนักลงทุนเข้ามาสร้างฐานการผลิตในประเทศไทย อย่างซาอุดิอาระเบียที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันอาจจะทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงทางพลังงาน นอกจากความมั่นคงทางอาหาร ทำให้ไทยมีความพร้อมยืนบนโลกท่ามกลางความขัดแย้งและสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยเฉพาะการทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนยกระดับขึ้นมา