เปิดความเห็น "มีชัย" เสนอ สนช.ชงศาลรัฐธรรมนูญตีความ ร่าง พ.ร.ป. 2 ฉบับส่อขัดรัฐธรรมนูญทำเลือกตั้งโมฆะทั้ง ส.ส. – ส.ว. ชี้การให้องค์กรเป็นผู้กลั่นกรองว่าที่ ส.ว.ก่อน ทำประชาชนไม่สามารถเลือกสมัครได้อย่างเสรีทุกกลุ่ม ห่วงการตัดสิทธิเป็นข้าราชการการเมือง หากไม่ไปเลือกตั้งเขียนเกินขอบเขต รวมทั้งการให้บุคคลอื่นหรือกรรมการประจำหน่วย ลงคะแนนแทนผู้พิการ
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า จากกรณีที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)เสนอแนะให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)เข้าชื่อ 1 ใน 10 เพื่อยื่นเรื่องต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เพื่อส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และร่า งพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา นายมีชัย ได้ทำหนังสือแสดงความเห็นต่อร่างพ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับ ถึงนายพรเพชร ดังนี้ ในส่วนของร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.นั้น ทาง กรธ.ปรึกษาหารือกันแล้ว มีความห่วงกังวลอย่างมาก ในส่วนที่เกี่ยวกับ 1.วิธีการสมัคร ที่แบ่งออกเป็น 2 วิธีคือ การสมัครด้วยตนเองกับการสมัครด้วยการแนะนำจากองค์กร และ 2.การเลือกในระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ โดยให้ผู้สมัครแต่ละวิธีแยกกันเลือกเป็นบัญชีสองประเภท ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวทำให้ผลการเลือก ไม่ใช่การเลือกกันเองระหว่างผู้สมัครทั้งหมด เพราะเป็นการแบ่งโควตาระหว่างผู้สมัครอิสระกับองค์กรแนะนำ ซึ่งการให้องค์กรเป็นผู้กลั่นกรองก่อนนั้น ทำให้ประชาชนไม่สามารถเลือกสมัครได้อย่างเสรีทุกกลุ่ม จึงไม่ตรงตามเจตนารมณ์มาตรา 107 ของรัฐธรรมนูญ ที่มุ่งให้ผู้สมัครเลือกกันอย่างเท่าเทียม ภายใต้กฎเดียวกัน และไม่ได้มุ่งหมายให้แยกประเภท โดย กรธ.เห็นว่า ปัญหาไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมีความสำคัญ หากมีผู้ร้องเรียนภายลังจะทำให้การเลือกวุฒิสภาต้องเสียไปทั้งหมด และจะกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินที่ไม่อาจดำเนินการต่อไปได้
ส่วนในร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น กรธ.มีข้อห่วงกังวลใน 2 ประเด็นคือ 1.มาตรา 35 การตัดสิทธิเป็นข้าราชการการเมือง หากไม่ไปเลือกตั้ง เพราะการที่ผู้ใดจะเข้ารับตำแหน่งไม่ใช่สิทธิ แต่เป็นเสรีภาพ จึงกังวลว่า เป็นการเขียนเกินขอบเขตการจำกัดสิทธิตามมาตรา 95 วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญ และ2.การให้บุคคลอื่นหรือกรรมการประจำหน่วย ลงคะแนนแทนผู้พิการ และให้ถือเป็นการออกเสียงโดยตรงและลับ โดย กรธ.กังวลว่า จะขัดต่อมาตรา 85 ของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ ส.ส.มาจากการลงคะแนนโดยตรงและลับ การกำหนดแบบนี้ จึงเป็นการยอมรับว่า การลงคะแนนดังกล่าวไม่ตรงและลับ อีกทั้งเคยมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 9/2549 ที่ระบุ หลักการเลือกตั้งโดยลับว่า จะต้องดำเนินการเลือกตั้งโดยไม่ให้ผู้ใดทราบเลยว่า ผู้ลงคะแนนตัดสินใจเลือกใคร