ตำรวจแจ้งข้อหาหนุ่มเตะคุณตาขี่ซาเล้ง ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ด้านครอบครัวพร้อมเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
เมื่อเวสา 16.00 น. วันที่ 15 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.เสนิส สำราญสำรวจกิจ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) พร้อมด้วย พ.ต.อ.กำพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นาย นราธร โสตติยัง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 471/244 ซอยสุทธิพร แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.ซึ่งเป็น ผู้ต้องหาในคดีทำร้ายร่างกายนายจรูญ มีพันธ์ อายุ 82 ปี อาชีพขี่ซาเล้งเก็บขยะและของเก่าขาย
พ.ต.อ.กัมพล กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 13 มี.ค. ขณะที่นายจรูญ มณีพันธ์ อายุ 82 ปี อาชีพเก็บของเก่า กำลังถีบ 3 ล้อซาเล้งภายใน ซอยชานเมือง2 แขวงและเขตดินแดง กทม.มาถึงบริเวณกลางซอย นายนราธร ผู้ต้องหาได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง ไม่ติดป้ายทะเบียนสวนทางมาและได้เฉี่ยวชนรถซาเล้งของนายจรูญ เป็นเหตุให้จักรยานยนต์ของนายนราธรล้มลง ซึ่งนายจรูญได้หยุดรถดูแล้วเห็นว่าไม่น่ามีอะไรเพราะรถซาเล้งไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด จึงถีบรถต่อไปช้าๆ แต่นายนราธรได้วิ่งตามมาและใช้เท้าเตะที่ลำตัวและชกที่ใบหน้านายจรูญ จนหล่นจากรถซาเล้งแล้วล้มลงไปนอนที่พื้นถนน แล้วจะเข้าไปทำร้ายร่างกายซ้ำอีกแต่พลเมืองดีเข้ามาห้ามนายนราธรออกไปจากที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวนายจรูญส่ง รพ.ราชวิถีเบื้องต้นได้รับบาดเจ็บมีแผลแตกบริเวณหางคิ้วข้างขวา
พ.ต.อ.กัมพล กล่าวต่อว่า ในวันที่ 15 มี.ค. นายนราธร เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ให้การรับสารภาพว่าโมโหนายจรูญชนแล้วหนี เรียกก็ไม่หยุด ยืนยันว่าไม่ได้ขี่จักรยานยนต์เล่นโทรศัพท์ ได้ดำเนินคดีในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ส่วนอาการของนายจรูญ คิ้วแตกที่หางคิ้วด้านขวามีแผลเย็บประมาณ 10 เข็ม และอยู่ระหว่างการแอดมิดเพื่อดูผลข้างเคียง
ด้าน พล.ต.ต.เสนิส กล่าวว่า สุดท้ายคดีนี้ก็เป็นอีกคดีหนึ่งที่เป็นอุทาหรณ์ คนอารมณ์ร้อนเวลาเกิดเหตุแล้วไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ เมื่อเกิดความโมโหและลงมือทำ ภายหลังเกิดสำนึกได้รับสารภาพว่า รู้สึกสำนึก ดังนั้นขอให้ใจเย็นๆ คนไทยด้วยกันเพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการแบบนี้ขึ้นอีก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อีกด้านหนึ่ง นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เดินทางเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจนายจรูญ ที่ห้องอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน ชั้น 3 รพ.ราชวิถี เพื่อให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายรับคำขอและแจ้งสิทธิตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย โดยมีนางฉลวย จริตเอก อายุ 71 ปี ภรรยา และน.สวนิดา มีพันธ์ ลูกสาวให้การต้อนรับ
นายเกิดโชค กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในส่วนของกรมคุ้มครองสิทธิฯได้แจ้งสิทธิแก่ผู้เสียหายเบื้องต้นแล้ว พร้อมให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายแก่ผู้เสียหาย รวมถึงแนะนำแนวทางการขอรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐและอำนวยความสะดวกในการขอรับคำขอหลักเกณฑ์ในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาให้ผู้เสียหายได้ทราบถึงสิทธิในการให้ความช่วยเหลือครั้งนี้
น.ส.วนิดา จากการสอบถามผู้ที่ทำร้ายร่างกายพ่อบอกว่าเขาเมา ทำให้รู้สึกไม่ดีและจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ต่อจากนี้ตนก็คงจะพาครอบครัวย้ายไปอยู่ที่จ.ลพบุรี ไม่อย่างนั้นพ่อก็คงจะขี่รถออกไปหาของเก่าทุกวัน สำหรับอาการของพ่อในตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว