"พม.-มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย-บ.สยามดนตรียามาฮ่า" มอบเครื่องดนตรีให้ "น้องพิมมี่" สาวพิการตาบอด หนุนเปิดหมวกเลี้ยงชีพ
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.66 ที่กระทรวงการพัมนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องดนตรีเพื่อประกอบการแสดงความสามารถ โดยการสนับสนุนจากมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย และ บริษัทสยามดนตรียามาฮ่า จำกัด ให้กับ น.ส.พิมพ์ชนก เต็มใจ หรือ "น้องพิมมี่ คีย์บอร์ด" สาวพิการทางสายตาที่ร้องเพลงเปิดหมวกเพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว แต่ถูกชายสูงวัยบุกต่อว่าโวยวายว่าเสียงดังรบกวน ขณะเล่นดนตรีบริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรัชดา โดยมีผู้เข้าร่วมในพิธี ได้แก่ ตัวแทนจาก บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด ได้แก่ นายพีรวัฒน์ ชูเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด นายพรเทพ ภูมิพฤกษ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสินค้าเครื่องดนตรี ตัวแทนจากมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย นายนิกร จำนง กรรมการและเหรัญญิกมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ในฐานะผู้แทน น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานมูลนิธิพัฒนาพัฒนาคนพิการไทย
นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าร่วมเป็นเกียรติในการมอบเครื่องดนตรี ได้แก่ นายชูศักดิ์ จันทยานนท์ เลขาธิการสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย และรองประธานกรรมการมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย นายพีรพงศ์ จารุสาร อุปนายกคนที่ 3 สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย น.ส.ภวิกา ประดับสุข เจ้าหน้าที่ศูนย์กฎหมายตาทิพย์ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย นายกฤษณ์พงษ์ เตชะพลี เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย
สำหรับเครื่องดนตรีเพื่อประกอบการแสดงความสามารถ ที่มอบให้น้องพิมมี่ ประกอบด้วย 1.คีย์บอร์ดไฟฟ้าYAMAHA รุ่น PSR-SX600 2.กระเป๋าคีย์บอร์ด 20KBH High-end3.ฟุตสวิทช์คีย์บอร์ด FC4A 4.เก้าอี้เปียโน Klaw DSB-YM618 Black 1 ตัว 5.ไมโครโฟนไดนามิค Shure-SM58LC-Black 1 ตัว 6.ไมโครโฟนไร้สาย IONYX#ECHO1 1 ตัว 7.ขาตั้งคีย์บอร์ดคู่ Klaw Q2X Black 1 ชิ้น 8.สายสัญญาณ XLR-DM CABLE-XLR FEMALE TO TS 5M-BLACK 1 เส้น
นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องขอบคุณบริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัดที่ได้นำสิ่งดีมามอบให้กับน้องพิมมี่ ซึ่งเราไม่ได้ทำบุญให้กับน้องพิมมี่ แต่ถือว่าได้ทำให้กับสังคมโดยรวมด้วย ที่จะได้รับฟังเสียงดนตรีที่ไพเราะ และต้องบอกว่าชนใดไม่มีดนตรีกาล โดยสันดานเป็นคนชอบกลนัก ซึ่งเป็นบทประพันธ์ของรัชกาลที่ 6 ถือว่าการที่น้องพิมมี่ได้มอบสิ่งดีๆ ให้กับสังคมไทยด้วยการแสดงศักยภาพของคนพิการให้คนทั่วไปได้ประจักษ์นั้น ตนถือว่าตรงกับสิ่งที่กระทรวงพม.เราทำอยู่ เพราะเราเชื่อเสมอว่าคนพิการไม่ใช่ผู้ด้อยโอกาส แต่เป็นผู้ที่มีศักยภาพ ซึ่งบางครั้งมากกว่าคนทั่วไปเสียอีก เพียงแต่หลายฝ่ายอาจจะยังไม่ได้หยิบยื่นโอกาสให้กับคนพิการเหล่านั้น
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ดังนั้นจึงต้องขอบคุณอีกครั้งสำหรับ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่าและมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทยที่ยื่นโอกาสให้คนพิการได้แสดงศักยภาพต่อสาธารณชนได้เห็น อย่างไรก็ตามรู้สึกดีใจที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้อนุญาตให้กลุ่มคนพิการมีพื้นที่ในสยามสแควร์ในการแสดงศักยภาพ จะเป็นโอกาสมากขึ้นกว่าในอดีตที่ไปแสดงตามชุมชน ตลาดนัด ดังนั้นหากไปเล่นที่สยามสแควร์ได้ก็จะหล่อและเท่ห์มากขึ้น เพราะคนพิการก็อยากแสดงความสามารถด้วยกันทั้งนั้น
นายวราวุธ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ตนได้มอบหมายให้อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ได้หารือร่วมกับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ตนได้พูดคุยกับอธิบดีกรมอุทยานฯ ในเบื้องต้นแล้วว่าจะเปิดพื้นที่ให้คนพิการและผู้มีความสามารถที่มีบัตรประจำตัวในการแสดงความสามารถในที่สาธารณะไปแสดงในอุทยานแห่งชาติได้ทั่วประเทศ โดยอธิบดีกรมอุทยานฯ ให้คำมั่นมาว่าไม่ขัดข้อง ขอให้ทุกคนลองนึกภาพดูว่า ในอุทยานเขาใหญ่หากมีดนตรีเล่นให้กับนักท่องเที่ยวได้รับฟัง
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า โดยคนที่มีความสามารถพิเศษ ก็จะเป็นการให้โอกาสและส่งเสริมศักยภาพ ซึ่งตรงกับชื่อของกระทรวงพม.โดยสังคมไทยหรือสังคมใดนั้นจะมีมาตรฐานที่ดีหรือไม่ดีได้นั้นขึ้นอยู่กับดนตรีและศิลปะ การที่น้องพิมมี่นำดนตรีมาให้สังคมได้ฟังถือเป็นการยกระดับจิตใจให้ผู้คนในสังคมท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงและความขัดแย้งมากมาย เชื่อว่าเสียงดนตรีจะได้ขัดเกลาความรู้สึกของคนหลายๆ กลุ่ม แม้ว่าอาจจะมีบางคนที่ไม่ชอบแล้วมาไล่นั้นก็ช่วยไม่ได้ เพราะอย่างที่น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) เคยระบุไว้ว่านั่นเป็นปัญหาของเขาไม่ใช่ปัญหาของเรา อย่างไรก็ตามจากวันนี้จะเป็นสัญญาณให้ทุกคนเห็นว่าสังคมไทยจะเดินไปข้างหน้าได้โดยที่เราต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง