โรคกระดูกพรุน

2023-12-08 10:18:01

โรคกระดูกพรุน

Advertisement

โรคกระดูกพรุน

กระดูกเป็นส่วนที่สำคัญของระบบโครงสร้างร่างกาย ทำหน้าที่เป็นโครงแกนหลักให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น มายึดเกาะ ทำให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้ นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนที่เก็บแร่ธาตุที่รู้จักกันดี คือ แคลเซียม ด้วยความสำคัญเช่นนี้แล้ว หากไม่บำรุงหรือดูแลรักษามวลกระดูกให้ดี จนทำให้เกิดโรค กระดูกพรุน อาจส่งผลเสียต่อร่างกายตามมา เช่น ภาวะกระดูกที่แตกหรือหักง่าย

โรคกระดูกพรุน คืออะไร ?

โรคที่กระดูกมีมวลกระดูกลดน้อยลง เนื่องจากเกิดการสลายตัวของกระดูกเร็วกว่าการสร้างกระดูก จนทำให้ความแข็งแรงของกระดูกมีค่าลดลง ส่งผลทำให้กระดูกมีความเสี่ยงที่จะแตกและหักง่าย หากมีการหกล้มหรือการกระแทกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ปัจจัยเสี่ยงโรค กระดูกพรุน

-ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

-น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์

-ผู้หญิงวัยหลังหมดประจําเดือน

-สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

-พันธุกรรม

-ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา น้ำอัดลม

-รับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง

-รับประทานอาหารที่มีโปรตีนหรือไฟเบอร์มากเกินไป

-รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมไม่เพียงพอ

-ใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลานาน

-มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคข้อ โรครูมาตอยด์

กระดูกส่วนไหนที่พบโรคกระดูกพรุนได้มากที่สุด

-กระดูกข้อสะโพก

-กระดูกสันหลัง

-กระดูกปลายแขน

อันตรายของโรคกระดูกพรุน

โรคกระดูกพรุนจะทำให้มวลกระดูกและความแข็งแรงของกระดูกลดลง โดยปกติจะไม่ได้แสดงอาการ แต่เนื่องจากมวลกระดูกที่ลดลง จึงส่งผลให้กระดูกแตกหักง่ายมากกว่าปกติ และทำให้มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายตามมาหลังจากภาวะกระดูกหัก

อาการแทรกซ้อนของภาวะกระดูกหักจากสาเหตุภาวะโรค กระดูกพรุน

-โรคอัมพฤกษ์-อัมพาต

-หลังโก่ง หลังค่อม

-ติดเชื้อในกระแสเลือด

-ช่วยเหลือตัวเองลำบาก

-เคลื่อนไหวช้าลง

-แผลกดทับ (กรณีผู้ป่วยติดเตียง)

ประเภทของโรคกระดูกพรุน

โรคกระดูกพรุนแบบปฐมภูมิ

-เกิดกับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ทำหน้าที่ควบคุมระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงในร่างกายลดลง พบได้หลังหมดประจำเดือนไปแล้วประมาณ 15-20 ปี

-เกิดในผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นไป เมื่อร่างกายเสื่อมสภาพลง การทำงานของฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายก็จะมีประสิทธิภาพลดลง

โรคกระดูกพรุนแบบทุติยภูมิ เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ พบได้ในทุกเพศทุกวัย เช่น

-โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรครูมาตอยด์ โรคไตวายเรื้อรัง

-รับประทานยากลุ่มสเตียรอยด์เป็นเวลานาน

-เกิดอุบัติเหตุ

การวินิจฉัยโรคกระดูกพรุน แบ่งกระดูกออกเป็น 3 ชนิด

กระดูกปกติ  คือ มีค่ามวลกระดูกอยู่ในช่วง 1 ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (ค่ามวลกระดูก มากกว่า -1)

กระดูกโปร่งบาง  คือ มีค่ามวลกระดูกอยู่ระหว่างช่วง 1-2.5  (ค่ามวลกระดูก มีค่าระหว่าง -1 ถึง -2.5)

กระดูกพรุน คือ มีค่ามวลกระดูก 2.5 หรือต่ำกว่าของค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (ค่ามวลกระดูก น้อยกว่า -2.5)

วิธีป้องกันโรคกระดูกพรุน

-งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาเฟอีน

-รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

-รับประทานข้าวกล้องแทนข้าวขาว

-รับประทานผักและผลไม้

-รับประทานเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และถั่ว

-งดรับประทานอาหารรสเค็มและหวานจัด

-รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม

วิธีการรักษาโรคกระดูกพรุน

-ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

-รับประทานยาต้านการสลายของกระดูก เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน ฮอร์โมนแคลซิโตนินแคลเซียม

-รับประทานยากระตุ้นการสร้างกระดูก เช่น แคลเซียม วิตามินดี

-หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ

การดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคกระดูกพรุน

-ออกกำลังกายให้เหมาะสมกับวัย เช่น เต้นแอโรบิก เดินเร็ว หรือวิ่งเหยาะ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับข้อต่อ

-ระวังการหกล้ม เพราะโรคกระดูกพรุนหากเกิดอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้กระดูกแตกและหักได้

-รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม เพราะแคลเซียมจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกได้

-ออกไปรับแสงแดด เพราะวิตามินดี ในแสงแดดจะช่วยให้แคลเซียมในร่างกายไหลผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้ดียิ่งขึ้น

-หากเกิดอาการผิดปกติ ควรรีบเข้าพบแพทย์

ผศ.นพ.ชายนันท์ วิจิตรตระการรุ่ง

สาขาวิชาเวชศาสตร์การกีฬา ภาควิชาออร์โธปิดิกส์

คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล