"อัจฉริยะ"ยื่นหลักฐาน กมธ.มั่นคงแห่งรัฐ 3 ปมร้อน

2023-12-07 13:23:08

"อัจฉริยะ"ยื่นหลักฐาน  กมธ.มั่นคงแห่งรัฐ 3 ปมร้อน

Advertisement

"อัจฉริยะ"ยื่นหลักฐาน  กมธ.มั่นคงแห่งรัฐ 3 ปมร้อน "หมูเถื่อน-ส่งออกตีนไก่-เคลมภาษีน้ำมัน"  ด้าน "โรม"ข้องใจเรื่องยืดเยื้อ เชื่อสาวถึงตัวใหญ่ได้ไม่ยาก  

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 66 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจาก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ซึ่งนำหลักฐานร้องเรียนมามอบให้ตรวจสอบใน 3 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า มายื่นเรื่องร้องเรียนใน 3 ประเด็นคือ 1.การลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรเถื่อน โดยมีข้าราชการระดับกรม 3 กรมเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะโยงไปถึงนักการเมืองบางคน โดยถือว่าคืบหน้าไปมาก 2.การสวมสิทธิ์ส่งออกตีนไก่ไปยังประเทศจีน ซึ่งเกี่ยวพันกับอดีตรัฐมนตรี  และ 3.การส่งออกน้ำมันไปยังเมียนมาและวนกลับมาจำหน่ายในประเทศไทย โดยมีการขอคืนภาษีแบบผิดกฎหมาย 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งกระทำมาแล้ว 6 ปี ซึ่งเรื่องนี้กระทบต่อระบบเศรษฐกิจรวมถึงผู้ประกอบการและเกษตรกร ประเมินมูลค่าความเสียหายเป็นแสนล้านบาท

ด้านนายรังสิมันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องยอมรับว่าเรื่องหมูเถื่อนเป็นเรื่องที่ใหญ่ บางคนอาจจะมองว่าเป็นแค่เรื่องหมูไม่น่าจะมีอะไร แต่ต้องยอมรับว่าปัญหาเรื่องหมูเถื่อนไม่ได้มีแค่การลักลอบนำเข้ามาแบบผิดกฎหมายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบถึงการบังคับใช้กฎหมายของเราว่ามีปัญหาอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ หากเราไม่เอาผิดทางกฎหมายเราจะไม่มีทางรู้ว่าสินค้าทางการเกษตรที่เข้ามาสู่ไทยจะมีคุณภาพหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนไทยหรือไม่ ยังไม่นับว่าอาจจะมีคนที่เกี่ยวข้องที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมือง เป็นคนสำคัญของบ้านเมือง เป็นคนที่มีชื่อเสียงของบ้านเมือง อาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องอีกด้วย นอกจากนั้น ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรราคาหมูในประเทศที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรต่อไป

“เรื่องหมูเถื่อนจึงไม่ใช่แค่หมูเถื่อน แต่หมายความรวมถึงความหย่อนยานทางกฎหมาย ปัญหาทางสุขภาพ ปัญหาที่เกษตรกรอาจจะได้รับและอื่นๆอีกมากมาย เพราะฉะนั้นในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงจะเอาเรื่องนี้เข้าหารือในกรรมาธิการ เพื่อที่จะได้มีการประชุมและจะพิจารณากันต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งขอบเขตของ กมธ.ความค่อนข้างกว้างครอบคลุมหลายเรื่อง เราสามารถพิจารณาประเด็นเรื่องยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศซึ่งเรื่องนี้หมูเถื่อน เมื่อพิจารณาแล้วอยู่ในส่วนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิบัติประเทศหรืออาจจะกระทบกระเทือนต่อกฎหมายเหล่านี้ เราก็สามารถที่จะบรรจุเข้าพิจารณาได้ แต่ก็ไม่สามารถตอบได้ว่าจะเข้าในขอบเขตไหนบ้าง จึงขอไปพิจารณา และปรึกษากันในกรรมาธิการก่อน” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ขณะที่กระบวนการการตรวจสอบหมูเถื่อน ตนมองว่าเรื่องนี้ค้างมาเป็นเวลานาน ซึ่งความจริงตนก็คิดคล้ายๆ กับนายอัจฉริยะ และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากและน่าจะสาวไปถึงตัวการคนสำคัญได้หมด คำถามอยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่ และแปลกใจว่าทำไมถึงยื้อกันนานขนาดนี้ ถ้าเรื่องไปถึงระดับดีเอสไอ (DSI)และความพยายามแสดงออกของฝ่ายต่างๆเรื่องนี้ควรจะจบได้แล้ว ถ้ามาถึงขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการจัดการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ ระบบกฎหมายของเราจะมีใครเชื่อถือ ซึ่งไม่ใช่เป็นแค่การสาวคนที่เกี่ยวข้อง แต่เราต้องมานั่งคิดว่ามีเจ้าหน้าที่ใครบ้างที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เราจะสามารถป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก และก็จะดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ใช่แค่หมูเถื่อน ที่นายอัจฉริยะมายื่นในวันนี้ยังมีเรื่องตีนไก่ด้วย ก็ต้องตรวจสอบต่อไป ว่าจะมีใคร ที่จะเกี่ยวข้องกับกรณีนี้บ้าง