"ไพฑูรย์"หนุนลูกชาย "นราพัฒน์" ชิงหัวหน้า ปชป. ชูเป็นคนนิ่ง ทำงานกับใครก็ได้ ไม่มีปัญหา
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.66 นายไพฑูรย์ แก้วทอง กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะบิดาของนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แคนดิเดตชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ของนายนราพัฒน์ กับ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ว่า เป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ ตนเป็นคนรุ่นเก่า อีก 2 ปีก็อายุ 90 ปีแล้ว มีฐานะเป็นที่ปรึกษา ก็ให้แล้วแต่ความสามารถ แต่ก็อยากให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค นายนราพัฒน์ อายุเพียง 54 ปี แต่เป็น ส.ส.มาแล้ว 4 สมัย มีประสบการณ์เคยเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี 2 สมัย หากว่าสมาชิกพรรคสนับสนุนก็เป็นเรื่องของเขา แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่แปลก อยู่ตำแหน่งไหน ก็ทำงานได้ นิสัยของเขาทำงานกับใครก็ได้ ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า หากไม่ได้ตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก็จะยังทำงานกับพรรคต่อไปใช่หรือไม่ นายไพฑูรย์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา อย่างตนยังทำงานกับนายสนั่น ขจรประศาสน์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เลย แต่นิสัยใจคอของนายนราพัฒน์ นิ่งกว่าตนด้วยซ้ำไป ดังนั้นอยู่ที่การตัดสินใจของสมาชิกพรรค แต่เราต้องยอมรับว่า ตอนนี้ต้องเอาคนรุ่นใหม่มาทำงาน จะได้ถึงลูกถึงคนหน่อย อะไรที่เปลี่ยนแปลงไปต้องฟังได้ทุกอย่าง
เมื่อถามว่า มองว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคหรือไม่ นายไพฑูรย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต นายนราพัฒน์ก็เคยพูดว่า หากได้ตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก็จะเชิญน.ส.วทันยา มาร่วมทำงานด้วย แต่หากน.ส.วทันยา ชนะ เขาเองก็ยินดีจะร่วมทำงาน และจะรื้อฟื้นยุวประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยแข็งแรง
“ผมมองว่าผู้มาลงชิงตำแหน่งเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งคู่ แต่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นลูกหม้อพรรคประชาธิปัตย์ เพียงแต่ต้องยอมรับกัน ไม่ใช่ว่าใครแพ้ก็หนีพรรคเหมือนที่ผ่านๆ มา พรรคเราไม่มีเจ้าของ คนที่แพ้ก็ต้องอยู่กับพรรค คนที่ชนะก็ต้องใจกว้าง เชิญเขามาทำงานร่วมกัน ไม่ใช่แบ่งคนละพวกเลย เรื่องนี้ขอพูดเป็นแนวทางให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคได้คิดด้วย” นายไพฑูรย์ กล่าว