พายุฤดูร้อนถล่มอุดรฯ บ้านพังยับ 266 หลัง

2018-03-14 17:05:34

พายุฤดูร้อนถล่มอุดรฯ บ้านพังยับ 266 หลัง

Advertisement

พายุฤดูร้อนถล่มในหลายพื้นที่ของ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี มีบ้านเรือนประชาชนเสียหายมากกว่า 260 หลัง ชาวบ้านระทึก! เล่านาทีหนีตาย

เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี ได้เดินทางเข้าสำรวจพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของชาวบ้านหลังจากพายุถล่มในพื้นที่หลายตำบลของ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมี 4 ตำบลที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ได้แก่ ต.เชียงแหว ต.แช,ต.เสอเพลอ และ ต.ผาสุก และเสียหายมากที่สุดคือที่ ต.เชียงแหว มีบ้านเรือนประชาชนเสียหายถูกพายุถล่มมากถึง 87 หลังคาเรือน สภาพหลังคาบ้านสังกะสีหายไปทั้งแถบ โดยเฉพาะที่บ้านบ้านเลา บ้านไม้เสา 16 ต้นถล่มลงมาเลยทีเดียว โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานในพื้นที่ ได้เดินทางมาเยี่ยมนางแหว๋ว หล้าศักดิ์ ซึ่งบ้านทั้งหลังพังถล่มลงมา และให้ผู้ใหญ่บ้านสำรวจความเสียหายทั้งหมดเพื่อรายงานให้ทางหน่วยเหนือทราบต่อไป

จากเหตุการณ์วาตภัยพายุถล่มสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชนใน อ.กุมภวาปีอย่างหนัก พบว่า มีบ้านเรือนประชาชนเสียหายรวม 4 ตำบล 27 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหายรวมแล้ว 266 หลังคาเรือน ต.เชียงแหว หมู่ที่ 1, 3, 7, 8, 9, 11 และ 12 จำนวนเสียหาย 87 ครัวเรือน ต.ผาสุก หมู่ที่ 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 และ 10 เสียหาย 111 ครัวเรือน ต.เสอเพลอ หมู่ที่ 1, 2, 4, 7, 9, 12,16 และ 19 เสียหาย 56 ครัวเรือน และ ต.แชแลอีก 12 หลังคาเรือน




นอกจากยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากบ้านล้มทับอีก 3 รายคือ นางบุษบา พิทักษ์วาปี อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 97 ม. 12 ต.เสอเพลอ 2. นางสำเนียง สามแท่น อายุ 63 ปีบ้านเลขที่ 66 ม.12 ต.เสอเพลอ และ 3. นางบุญลือ สีแจจันทร์ ยังไม่ทราบอายุ ราษฎร ม.12 ต.เสอเพลอ ซึ่งตอนนี้อาการปลอดภัยทุกคน ส่วนความเสียหายกำลังให้กำนันผู้ใหญ่บ้านเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อรายงานให้หน่วยเหนือทราบต่อไป

นางแหวว หล้าศักดิ์ อายุ 43 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 13 หมู่ 8 บ้านเลา ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี ที่บ้านเสียหายทั้งหลัง เปิดเผยว่า ก่อนเกิดพายุตนอยู่บนบ้านเพียงคนเดียว สามีไปทำงานในตัวหมู่บ้าน ตอนนั้นเกิดฝนตกลงมาไม่หนักประมาณ 10 นาที แต่มีลมแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ตนจึงมาปิดหน้าต่างบ้าน แต่ยังไม่ทันได้ปิด มีเสียงดังจากเสาบ้านและตัวบ้านได้เกิดเอียงจากแรงลมอย่างรวดเร็ว ตนมาถึงหน้าต่างจึงได้กระโดดออกทางหน้าต่างลงมาที่พื้นดิน โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บมาก จากนั้นตนหันไปมองดูบ้าน เห็นเสาปูนบ้านทั้ง 16 ต้น หักตัวบ้านเหมือนจะปลิวไปกับพายุ จากนั้นจึงวิ่งหนีออกให้ไกลจากบริเวณบ้านอย่างไม่คิดชีวิต ยอมรับว่ากลัวมากเพราะเกิดมา 43 ปี ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน รอดมาได้ถือว่าบุญแล้ว



ด้านนายจันทร์ อ่อนดี อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 66 ม.12 บ้านดงสามสิบ ต.เสอเพลอ เล่าว่า ขณะเกิดพายุตนได้ไปดับไฟที่ไหม้กองฟาง ซึ่งอยู่ที่นา เมื่อกลับมาบ้าน มีลมแรง จากนั้นฝนก็ตกลงมา ไม่นานลมก็พัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ลูกชายกับภรรยากำลังทำกับข้าวในบ้าน ตนกำลังจะเดินเข้าบ้านแรงลมก็พัดบ้านพังลงมา ตนจึงได้รีบเข้าไปช่วยลูกและภรรยา ที่ติดอยู่ในบ้าน โชคดีที่ตรงบริเวณที่ภรรยาและลูกชายอยู่นั้นมีโอ่งน้ำขนาดใหญ่ คอยกค้ำคานเหล็กหลังคาบ้านไว้ ซึ่งภรรยาได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ส่วนลูกชายมีแผลถลอกตามร่างกายเล็กน้อย จากนั้นผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ใกล้กันก็มาช่วยนำส่ง รพ.