ตร.คุมตัวอดีตผัวโหดทำแผนบีบคออดีตเมีย อบต.ดับทิ้งท่อน้ำโบกปูน สารภาพหึงหวง
จากกรณีนายประสิทธิพร พัฒน์มาก หรือ "ปอ" อายุ 40 ปี อดีตสามีของ น.ส.กวินนา บุณเมศวร์ หรือ "ฝน" อายุ 39 ปี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ อบต.เพิ่มพูลทรัพย์ อ.บ้านนาสาร เข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.66 และทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่สืบสวน จนถึงปัจจุบันยังไม่พบตัวและสามารถติดต่อได้นั้น
เมื่อวันที 26 พ.ย.66 ผู้สือข่าวรายงานว่า ตามที่พ.ต.ท.จรูญ รอดพันชู สว.สส.สภ.ขุนทะเล พร้อมเจ้าหน้าที่ชุด TAG บก.กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ลงพื้นที่แกะรอยจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่กลับไม่พบรถตามคำให้การของนายประสิทธิพร ตามที่ให้การ แต่กลับพบว่านายประสิทธิพร ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าว มาตามถนนสายนาสาร-สุราษฎร์ธานี ในพื้นที่ สภ.ขุนทะเล มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองตั้งแต่ช่วงเวลา 21.00 น.ซึ่งไม่ตรงกับคำให้การที่แจ้งว่ามาส่งผู้ตายมาทำรายงานในเวลาประมาณเที่ยงคืน 00.00 น. และมีเพื่อนสองคนขับรถเก๋งมารับผู้ตายไป และทางเจ้าหน้าที่ยังพบว่านายประสิทธิพร ได้ขับรถเลี้ยวซ้ายเข้าถนนท่าโรงช้าง(ทางลัด)ไปออกบริเวณแยกตาปาน เลี้ยวซ้าย ไปทางถนนสุราษฎร์พุนพิน แล้วกลับรถไปทางถนนสายอำเภท่าฉาง (สายล่าง)ก่อนจะขับวกมาขึ้น ถนนสายเอเซีย 41 มุ่งหน้าไปถึงตำบลเขานิพันธ์ อ.เวียงสระ แล้วขับกลับลงมาทาง ถนนสายเวียงสระ -บ้านนาสาร เพื่อกลับที่พัก
ต่อมาเมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 25 พ.ย.66 เจ้าหน้าที่ชุดชุดสืบสวน ทำการสืบสวนจนพบศพหญิงสาวหนึ่งรายในพื้น หมู่ที่ 7 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นศพของ น.ส.กวินนา บุณเมศวร์ หรือ "ฝน" อายุ 39 ปี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ อบต.เพิ่มพูลทรัพย์ ที่หายตัวไป โดยนายประสิทธิพร พัฒน์มาก อายุ 40 ปี ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอดีตสามีของผู้ตายให้การรับสารภาพเนื่องจากจำนนต่อหลักฐาน ว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าอดีตภรรยาของตัวเอง และนำไปชี้จุดที่นำศพไปทิ้ง
ล่าสุดวันนี้ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ปริญญา ตัณฑสุวรรณ ผกก.บก.กก.สส. ภ.จว. สุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ขุนทะเล และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.กก.สส. ภ.จว. สุราษฎร์ธานี ได้นำตัวนายประสิทธิพร พัฒน์มาก อายุ 40 ปี ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอดีตสามีของผู้ตาย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามจุดต่างๆจำนวน 6 จุด โดยเริ่มจากจุดแรกใกล้กับจุดพบศพ ซึ่งผู้ต้องหาได้นกระเป๋าผู้ตายไปทิ้ง จุดที่สองเป็นร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ในพื้นที่ขุนทะเลซอย10 ต.ขุนทะเล จุดที่สามเป็นจุดที่นำโทรศัพท์ของผู้ตายไปทิ้งที่บริเวณสะพานบ้านกอบแกบ พื้นที่ ต.เพิ่มพูนทรัพย์ อ.บ้านนาสาร จุดที่สี่ เป็นจุดที่เอาที่นอนไปทิ้ง จุดที่ห้าที่บริเวณบ้านของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาใช้มือบีบคออดีตภรรยาจนตาย และจุดสุดท้ายเป็นจุดที่นำศพมาทิ้งบริเวณท่อระบายน้ำ ก่อนที่จะใช้ใบตองมาปิดศพในวันที่ 13 พ.ย. และผู้ต้องหาได้ย้อนกลับมาซื้อปูนและทรายมาโบกทับร่างผู้ตายในวันที่ 16 พ.ย.66
ส่วนสาเหตุผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุเกิดจากความหึงหวง ว่าอดีตภรรยา ที่แยกกันอยู่นานกว่า 1 ปี แต่เพิ่งจดทะเบียนหย่าร้างกันได้ไม่นาน แต่ยังอาศัยอยู่บ้านเดียวกันโดยฝ่ายผู้ตายจะย้ายออกจากบ้านเกิดเหตุไปอยู่บ้านใหม่ จึงเกิดบันดาลโทสะลงมือฆ่าด้วยการบีบคอจนตายคามือ ก่อนนำศพไปทิ้ง จากนั้นนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ขุนทะเล ดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่น. และซ่อนเร้นอำพลางศพ ตามกฎหมายต่อไป