เจ้าหน้าที่ทูตพิเศษสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น เชื่อว่าเมียนมาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจา พร้อมเสนอตั้งหน่วยงานเก็บรวบรวมหลักฐานการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมา
หยางฮี ลี เจ้าหน้าที่ทูตพิเศษฝ่ายสิทธิมนุษยชนในเมียนมา ของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ซึ่งกำลังสอบสวนเหตุการณ์กวาดล้างชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮีนจาของรัฐบาลเมียนมา แถลงเมื่อวานนี้ว่า เธอมีความเชื่ออย่างสูงว่า เมียนมาอาจก่อคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หลังวันที่ 9 ตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ทั้งนี้ ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจามากกว่า 680,000 คน อพยพหลบหนีจากเมียนมา ข้ามพรมแดนไปยังบังกลาเทศ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยพวกเขาถูกสังหารหมู่ และทำลายล้างจากกองทัพเมียนมา ลี ซึ่งกล่าวต่อข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวานนี้ เรียกร้องให้จัดตั้งองค์กรหนึ่งขึ้นที่เมืองค็อกซ์ บาซาร์ ในบังกลาเทศ ซึ่งเป็นค่ายผู้ลี้ภัยของโรฮีนจา เพื่อรวบรวมหลักฐานการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมา
ลี กล่าวอีกว่า เป้าหมายของการตั้งองค์กรขึ้นมา ก็เพื่อนอำนวยความสะดวกในการดำเนินคดีอาญาระหว่างประเทศที่เป็นธรรม ยุติธรรมและเป็นอิสระในศาลทั้งในประเทศ หรือศาลระหว่างประเทศ ส่วนซีเอ็นเอ็น ได้ติดต่อกับรัฐบาลเมียนมาเพื่อให้ชี้แจงเรื่องดังกล่าว แต่ไม่ได้คำตอบในทันที