หนุ่มพิการแจงเหตุทุบกระจกประตูลิฟต์บีทีเอสเจอปัญหาซ้ำซากถูกละเมิดสิทธิ ขอดูบัตร เซ็นชื่อ กรอกข้อมูลส่วนตัวเวลาไปใช้บริการ ทำเสียเวลา นอกจากนี้ประตูกั้นก่อนเข้า-ออกลิฟต์มีการล็อก ต้องกดปุ่มเรียกรอให้เจ้าหน้าที่มาเปิด ด้วยความโมโห จึงกระทำการดังกล่าวไป
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. นายมานิตย์ อินทร์พิมพ์ ผู้พิการที่นั่งรถวีลแชร์ และนักรณรงค์เพื่อสิทธิคนพิการ พร้อมด้วยนายธีรยุทธ สุคนธวิท ประธานภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้อง ขึ้นได้ (T4A) และสมาชิก เดินทางมาที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าสถานีอโศก โดยเปิดเผย กรณีที่วันที่ 12 มี.ค. ได้ใช้มือชกกระจกลิฟต์สถานีรถไฟฟ้ายอมรับว่าผิดที่ทำลายทรัพย์สิน แต่ก่อนหน้านี้ ใช้บริการรถไฟฟ้ามาประมาณ 3 ปี มีเพียงสถานีอโศกเพียงสถานีเดียวที่แทบทุกครั้งเวลาใช้ลิฟท์เจ้าหน้าที่จะต้องขอดูบัตรประจำตัวผู้พิการ เซ็นชื่อ และกรอกข้อมูลส่วนตัว ซึ่งมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ เสียเวลา และเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งตนเองได้สอบถามและขอพบผู้จัดการสถานี แต่ยังยืนยันว่าให้เซ็นชื่อ จึงไปซื้อตั๋วเดินทางเหมือนคนปกติ นอกจากนี้ประตูกั้นก่อนเข้า-ออก ลิฟต์ ที่จะเปิดเข้าไปล็อก ต้องกดปุ่มเรียกรอให้เจ้าหน้าที่มาเปิด ด้วยความโมโห จึงกระทำการดังกล่าวไป
นายมานิตย์ ที่ผ่านมาภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้ เคยเรียกร้อง จนศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครอง และสั่งภาครัฐดำเนินการก่อสร้างลิฟท์เพื่อผู้พิการ แต่จนถึงขนาดนี้ ภาครัฐกลับนิ่งเฉย โดยฝากถึง รมว.คมนาคม ให้ออกมาแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ซึ่งหากสัปดาห์หน้ายังไม่มีการดำเนินการใด เตรียมปรึกษาฝ่ายกฎหมายออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้อีกครั้ง ส่วนกรณีที่ถูกมองว่าทำตามป้าทุบรถ ยืนยันไม่ได้ทำตามกระแส เพียงแค่ต้องการเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐานที่คนทั่วไปมีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายมานิตย์ ระบุอีกว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากบีทีเอส หลังเกิดเหตุ มีเพียงการลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจเท่านั้น
