"ธีระชัย" เผยอิสราเอลโน้มน้าวแรงงานไทยอยู่ต่อ

2023-11-08 16:09:29

"ธีระชัย" เผยอิสราเอลโน้มน้าวแรงงานไทยอยู่ต่อ

Advertisement

อนุ กมธ.ชี้ทางการอิสราเอลโน้มน้าวให้แรงงานไทยให้อยู่ต่อ  เผย 2 หมื่นคนไม่ยอมกลับกระจายตามจุดที่ไม่ใช่เป้าโจมตี  ด้านอิสราเอลต้องนำเข้าแรงงานจากศรีลังกา 1 หมื่นคนทดแทนแรงงานไทย

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 66  ที่รัฐสภา นายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามแรงงานไทยที่รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล ใน  กมธ.แรงงาน สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ช่วยเหลือแรงงานไทย โดยมีกรมจัดหางานและกรมการกงสุลมาให้ข้อมูล ก่อนที่จะเดินทางไป จ.อุดรธานี ในวันที่ 9 พ.ย.นี้ เพื่อไปเยี่ยมครอบครัวของผู้ที่สูญเสียชีวิตและครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบ

โดยตัวแทนกรมจัดหางาน ชี้แจงว่า รายงานตัวเลขแรงงานที่เดินทางกลับประเทศ 8,815 คน และแรงงานได้มายื่นคำร้อง รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานที่ต่างประเทศ 6,661 คนโดยพิจารณาสั่งจ่ายกองทุน 2,386 คน เป็นวงเงินกว่า 37 ล้านบาท และทางกระทรวงแรงงานมีคำสั่งให้ลงพื้นที่ พบแรงงานมาแล้ว 2,654 คน ในจำนวนนี้สอบถามการช่วยเหลือด้านทำงาน ปรากฎว่ามีคนตอบแบบสอบถามประสงค์ทำงานต่างประเทศ 1,374 คน ประสงค์ทำงานในประเทศ 139 คน และต้องกาคประกอบอาชีพอิสระ 389 คน ที่เหลือยังลังเลต้องการพักผ่อน สำหรับประเทศที่แรงงานต้องการไปทำงานหลังจากที่กลับมาจากอิสราเอล บางส่วนต้องการกลับไปทำงานที่อิสราเอล และบางส่วนต้องการไปทำงานที่เกาหลี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน ส่วนงานที่ต้องการความช่วยเหลือคืองานภาคการเกษตร พนักงานทั่วไป ช่าง ฝ่ายผลิต พนักงานขับรถ ซึ่งกรมจัดหางานมีตำแหน่งงานรองรับอยู่

ขณะที่ตัวแทนกรมการกงสุล กล่าวว่า สถานการณ์การสู้รบยังคงรุนแรง มีการระดมยิงชายแดนฉนวนกาซาและกรุงเทลอาวีฟอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีโซนที่ปลอดภัย เช่น ทะเลทรายอาลาวาที่อยู่ติดกับพรมแดนจอร์แดน โดยทางอิสราเอลยังควบสถานการณ์ได้ ด้วยมีการเสริมกำลังรบและการสนับสนุน และงบประมาณจากสหรัฐอเมริกากำลังไหลมาที่อิสราเอล ประมาณ 14,000 ล้านเหรียญ ที่จะไปเสริมเรื่องไออ้อนโดม ซึ่งสถานทูตได้จากเที่ยวบินรับแรงงานไทย 35 เที่ยวบินที่รองรับการอพยพคนไทยกว่า 7,000 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมดำเนินการแผน 2 ซึ่งเค้าอยู่ในช่วงตัวเลขสมดุลของผู้ที่ตัดสินใจ ที่จะอยู่อิสราเอลต่อ เนื่องจากแรงงานอาจมีความมั่นใจและเคยชินกับสถานการณ์การสู้รบที่เป็นปกติ ขณะเดียวกันมองว่าอิสราเอลคงไม่ยอมเสียหน้า คาดว่าสงครามครั้งนี้ ทางอิสราเอลก็หวงแรงงานไทยซึ่งเป็นแรงงานสำคัญด้านการเก็บพืชไร่ เพราะในเขตที่สู้รบมีฟาร์มจำนวนมาก

"เอกอัครราชทูตไทยได้รับการติดต่อจากผู้ใหญ่ของอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา รมว.เกษตรฯ ของอิสราเอล เชิญทูตไปพบ สอบถามเรื่องจำนวนแรงงานไทย เพราะจะต้องคำนวณตัวเลขรายงานสำหรับการชดเชย ที่ใช้แรงงานในประเทศและกำลังทำข้อตกลงกับศรีลังกาที่จะนำเข้าแรงงานจำนวน 10,000 คนแทนที่แรงงานไทย สิ่งที่ รมว.เกษตรแจ้งฑูตไทยคือเรื่องหลักประกันความปลอดภัยของพื้นที่บางส่วนที่รายงานสามารถทำงานได้ เช่น พื้นที่เขตทะเลทรายอาราว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยและทางอิสราเอลหวังให้แรงงานไทยอยู่ ซึ่งแรงงานไทยยังอยู่อิสราเอลอีก 20,000 คน โดยกระจายไปในจุดที่ไม่ใช่เป้าของการโจมตี ทางอิสราเอลพยายามโน้มน้าวให้ฝ่ายไทยพิจารณาเรื่องพิจารณาส่งแรงงานไทยกลับ ในชั้นไทยตอบได้เพียงว่าหาก สถานการณ์กลับไปเป็นปกติแรงงานไทยจะกลับไปแน่เพราะการทำงานที่อิสราเอลรายได้ดี" ตัวแทนกรมการกงสุล กล่าว

ตัวแทนจากกรมการกงสุล เปิดเผยด้วยว่า ในวันที่ 9พ.ย.นี้ จะมีรายงานอีก 8 ศพเดินทางกลับถึงประเทศไทย พร้อมทั้งขอความร่วมมือกรรมาธิการที่เป็น สส. ช่วยประชาสัมพันธ์ประชาชนในพื้นที่และเรื่องการไปทำงานในต่างประเทศขอให้ไปอย่างถูกกฏหมายเนื่องจากการไปผิดกฎหมายไม่ได้ไปอยู่สบาย เนื่องจากหากป่วยเป็นไข้ก็ไม่สามารถที่จะไปพบแพทย์ได้และต้องอยู่แบบหลบหลบซ่อนๆ ไม่ปลอดภัย

จากนั้นอนุกรรมาธิการ กมธ. ได้สอบถามข้อมูลการไปทำงานของแรงงานไทยในอิสราเอลกับข้อมูลตัวเลขที่ไปทำงานจริงกับตัวเลขตรงกันหรือไม่ ซี่ง กรมการจัดหางานชี้แจงว่า แรงงานที่จะไปทำงานต่างประเทศจะต้องแจ้งกับกรมจัดหางาน 5 วิธีการเดินทาง และข้อมูลมีการเก็บไว้นั้นกรมจัดหางานจะรับทราบเฉพาะข้อมูลการเดินทางไป ตามสัญญาจ้าง แต่กรณีเดินทางกลับจะไม่ทราบข้อมูลตรงนี้ และอาจทำให้มีการคาดเคลื่อนของข้อมูล

กรมการกงสุลยังชี้แจงกรณีประเทศพันธมิตรรวมตัวกันเพื่อสู้อิสราเอลนั้นจะกลายเป็นสงครามหรือไม่ว่า เห็นขั้วต่างๆ คือขั้วตะวันตกกับอิสราเอล โดยตัวประกันเป็นตัวยับยั้งความรุนแรง หรือการเจรจาประสานตัวประกันติดต่อผ่านมิตรประเทศ คือ การ์ต้า อียิปต์ อิหร่าน เป็นประเทศที่มีสายสัมพันธ์กับกองกำลังที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ อนุ กมธ.ยังแสดงความกังวลข้อมูลข่าวที่มีสื่อรายงานว่ารายงานบางส่วนกลายเป็นทหารรับจ้าง โดยจะสอบถามวันนี้ และสอบถามถึงแนวทางการดำเนินการอพยพแรงงานไทยกับประเทศ แนวทางการจงใจแรงงานและการสื่อสารเพื่อให้แรงงานกลับประเทศ และการติดตามช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายโดยมีทายาทร่วมกันเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์