"อัครเดช"จ่อชงวิปรัฐบาลลดสัดส่วนประธาน กมธ. "ก้าวไกล"

2023-11-08 15:23:50

 "อัครเดช"จ่อชงวิปรัฐบาลลดสัดส่วนประธาน กมธ. "ก้าวไกล"

Advertisement

"อัครเดช"จ่อชงวิปรัฐบาลถกลดสัดส่วน "ประธาน กมธ.-กมธ.” ของ "ก้าวไกล" หลังขับ 2 ส.ส.

เมื่อวันที่ 8 พ.ย.66 นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล มีมติขับ 2 ส.ส. ออกจากพรรค ส่งผลให้เหลือ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ จำนวน 147 คน ว่า ในกรณีดังกล่าวจะมีผลต่อโควตาประธานกรรมาธิการ (กมธ.)   และกมธ.ประจำสภาผู้แทนราษฎรแน่นอน ที่จะต้องคำนวณสัดส่วนใหม่ ซึ่งตนจะนำประเด็นดังกล่าวหารือกับที่ประชุมวิปรัฐบาลอีกครั้งหลังจากที่เปิดสมัยประชุมในเดือนธ.ค.นี้ เพราะในประเด็นโควตาประธานกมธ. และกมธ.นั้น เป็นไปตามมติวิปรัฐบาลและข้อบังคับของสภาผู้แทนราษฎร

นายอัครเดช กล่าวด้วยว่า ในการคำนวณสัดส่วนประธานกมธ.และกมธ.ที่ผ่านการพิจารณาไป เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานะของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และ กรณีที่พรรคก้าวไกล ขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ออกจากสมาชิกพรรค ทำให้ในโควตาของประธาน กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องแบ่งครึ่งกับพรรคก้าวไกล โดยขณะนี้นายสัญญา นิลสุพรรณ  ส.ส.นครสวรรค์ พรรครวมไทยสรางชาติ ทำหน้าที่เป็นประธาน กมธ. ดังนั้นหากจำนวน  ส.ส.ของพรรคก้าวไกลลดลง เป็นไปได้ว่า ประธาน กมธ.กิจการศาล ตามสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องอยู่ยาวครบเทอม

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า สำหรับ 2  ส.ส.ที่เคยสังกัดพรรคก้าวไกลมาก่อน หากย้ายสังกัดไปพรรคใด และทำให้สัดส่วนของพรรคนั้นมี ส.ส.เพิ่มมากขึ้น หรือ หากหาสังกัดพรรคใหม่ได้ไม่ทันระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ก็ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ดังนั้นการคำนวณสัดส่วน กมธ.รวมถึงประธาน กมธ. ก็ต้องนำมาพิจารณาใหม่ตามระเบียบของสภาผู้แทนราษฎรเช่นกัน