อนุ กมธ.ประชาติแก้ รธน. พบ กมธ.พัฒนาการเมืองหารือออกแบบคำถามประชามติ

2023-11-02 20:32:17

อนุ กมธ.ประชาติแก้ รธน. พบ กมธ.พัฒนาการเมืองหารือออกแบบคำถามประชามติ

Advertisement


อนุ กมธ.ประชาติแก้ รธน. พบ กมธ.พัฒนาการเมืองหารือออกแบบคำถามประชามติ  "นิกร"พอใจสองฝ่ายเห็นตรงกัน

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 2 พ.ย.66 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะอนุกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่มีนายนิกร จำนง ประธานคณะอนุ กมธ.เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาฯ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธาน กมธ. โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อหารือเกี่ยวกับการออกแบบคำถามในการทำประชามติ แบบใด และครอบคลุมทุกประเด็น

จากนั้นเวลา 15.15 น.นายพริษฐ์ ให้สัมภาษณ์การหารือว่า ขอย้ำว่าการพูดคุยครั้งนี้เป็นการพูดคุยกับตนและกรรมาธิการไม่ใช่พูดคุยกับสมาชิกพรรคก้าวไกล เพราะทางอนุ กมธ.จะเข้าพูดกับพรรคก้าวไกลในวันที่ 14 พ.ย.นี้อยู่แล้ว โดยทางคณะอนุ กมธ. ได้แจ้งว่าต้องการจะทำแบบฟอร์มเพื่อสอบถามความเห็นสส.ทั้ง 500 คน เกี่ยวกับประเด็นต่างๆในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เห็นด้วยหรือไม่กับการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือเห็นอย่างไรกับการทำสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง รวมไปถึงปัญหาที่ ส.ส.มองว่ารัฐธรรมนูญปี 60 สมควรที่จะแก้ไข โดยการออกแบบคำถามจะต้องมีการเปิดกว้างเพียงพอให้ ส.ส.สามารถแสดงความเห็นและเจตนารมย์ของตัวเองได้ ซึ่งทางคณะอนุฯก็จะนำความเห็นที่ได้แลกเปลี่ยนกันวันนี้ไปพิจารณา และปรับปรุงชุดคำถามเพิ่มเติม

นายพริษฐ กล่าวต่อว่า ทาง กมธ.ได้มีการตั้งอนุกมธ. 1 ชุด จำนวน 10 คน ประกอบด้วยฝ่ายการเมือง 4 คน โดยแบ่งเป็น 2 คนจากฝ่ายค้านรวมตนด้วย และอีก 2 คนจากฝ่ายรัฐบาล อีก 3 คนเป็นนักวิชาการ และอีก 3 คนเป็นตัวแทนจากภาคประชาชน 3 กลุ่ม ที่ขับเคลื่อนเรื่องรัฐธรรมนูญ โดยจะเริ่มประชุมนัดแรกในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ซึ่งอนุ กมธ.จะมาศึกษาระบบเลือกตั้ง ส.ส.ร. หากอยู่ภายใต้กรอบของส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด เราสามารถออกแบบระบบเลือกตั้ง และทางเลือกอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้เป็นระบบเลือกตั้งตอบโจทย์ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความนิยมของประชาชน เรื่องความหลากหลายทางวิชาชีพ กลุ่มสังคม รวมถึงมีพื้นที่ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเข้ามามีส่วนร่วมด้วย และเมื่ออนุ กมธ.ศึกษาระบบเลือกตั้งเสร็จทั้งหมดก็จะนำรายงานและข้อเสนอส่งไปให้กับคณะกรรมการศึกษาฯของรัฐบาล เพราะก่อนหน้านี้มีข้อกังวลว่า หากส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด อาจจะมีข้อกังวล ก็หวังว่ารายงานชุดนี้จะคลายข้อกังวลดังกล่าวได้ และทำให้รัฐบาลมีข้อมูลครบถ้วนมากขึ้นว่าจะเดินหน้าด้วยการมีส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดหรือไม่

ด้านนายนิกร กล่าวว่า วันนี้ได้ความเห็นที่ดีมากจาก กมธ. แต่จะมีประเด็นที่จะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอยู่หลายส่วน ซึ่งในแต่ละข้อที่อาจเป็นคำถามเฉพาะของ ส.ส.ก่อน เพราะเป็นโหวตเตอร์ ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่เห็นแย้งกันอยู่คือเรื่อง ส.ส.ร.วันนี้ได้ข้อสรุปว่า โดยจะถามว่ามีส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งหรือไม่ และให้มีหรือไม่ ส่วนจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร ก็อาจจะต้องยกไว้ก่อนเพราะมีคำถามในเชิงลึก อาจจะให้ กมธ.ที่ตั้งโดยสภาฯในอนาคตเป็นผู้พิจารณาว่าจะทำอย่างไร ส่วนที่มีความกังวลเกี่ยวกับการทำประชามติ ซึ่งในที่ประชุมก็ได้มีการพูดคุยกันโดยส่วนตัวเห็นด้วยเพราะรู้อยู่แล้วว่าการใช้เสียงกึ่งหนึ่งของทั้งหมดไม่ใช่เรื่องง่าย หากเสียงไม่ถึง แต่ทุกคนหวังจะแก้ก็แก้ไม่ได้เลย เพราะประชาชนออกมาใช้สิทธิไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ซึ่งทางคณะอนุ กมธ. และชุดที่ศึกษาเห็นว่าเราจะแก้ไปก่อน โดยใช้กฎหมายปัจจุบัน เพราะเดี๋ยวจะหาว่าเตะถ่วง แต่เห็นด้วยที่จะให้ทางกมธ.พัฒนาการเมืองไปยกร่าง เพราะอาจจะต้องปรับปรุงกฎหมายประชามติ ทั้ง ๆที่ยังไม่ได้ใช้เกี่ยวกับสัดส่วนการถามว่าจะต้องถามกี่ครั้ง เพราะครั้งหนึ่งต้องใช้งบประมาณถึง 3,000 ล้านบาท ซึ่งการทำประชามติอาจจะมีเรื่องอิเลคทรอนิกส์มาด้วยหรือไม่ อาจจะต้องฝาก กมธ.ไปพิจารณา