มีเงื่อนงำ! พ่อลั่นยังไม่เผาลูกสาววัย 16 หลังพบรอยช้ำที่คอ

2018-03-11 14:50:43

มีเงื่อนงำ! พ่อลั่นยังไม่เผาลูกสาววัย 16 หลังพบรอยช้ำที่คอ

Advertisement

พ่อลั่นยังไม่เผาศพลูกสาววัย 16 ถูกแฟนหนุ่มวัย 14 ยิงเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำเพราะที่ลำคอมีรอยเขียวช้ำ

จากกรณีเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ด.ช.บอย นามสมมติ อายุ 14 ปี ใช้อาวุธปืนยิงถูกศีรษะของ น.ส.จันทร์เพ็ญ แก้วไพฑูรย์ อายุ 16 ปี ซึ่งคบหากันเป็นแฟน เสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน ต.ห้วยเฮี๊ยะ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านของแฟนหนุ่ม ขณะเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์แต่อย่างใด จากนั้น ด.ช.บอย ได้ไปบอกกับญาติว่าตนเองได้ทำปืนลั่นใส่แฟนสาว 1 นัด จนถึงแก่ชีวิต ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปจากที่เกิดเหตุทันที ส่วนทางผู้เป็นพ่อของผู้ก่อเหตุได้รับปากกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จะนำลูกชายเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใน 3 วัน

ล่าสุดวันนี้ 11 มี.ค. ร.ต.อ.ประทีป อินแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก (เจ้าของคดี) เปิดเผยว่า ได้เรียกสอบปากคำพ่อของ ด.ช.บอย และทางฝั่งครอบครัวของ น.ส.จันทร์เพ็ญที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ พบว่าผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตยังอยู่ในวัยเรียน ส่วนประเด็นที่แน่ชัดอาจจะเป็นไปได้ว่าก่อนเกิดเหตุอาจเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันขึ้น หรือ ด.ช.บอย อาจไปหยิบอาวุธปืนของพ่อที่ซ่อนไว้ออกมาเล่น แล้วเกิดพลาดทำปืนลั่นใส่แฟนสาวดังกล่าว ทั้งนี้จะต้องรอสอบปากคำ ด.ช.บอย ร่วมกับทีมสหวิชาชีพตามขั้นตอน เพื่อช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายเนื่องจากยังเป็นเยาวชน ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำมาตรวจสอบแล้ว พบว่ามีใบอนุญาตครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย



ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 11 มี.ค. ที่อาคารเก็บศพแผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก นายอรรถพรรณ แก้วไพฑูรย์ อายุ 65 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง บิดาของ น.ส.จันทร์เพ็ญ แก้วไพฑูรย์ อายุ 16 ปี ผู้เสียชีวิต พร้อมกับญาติได้เดินทางมารับศพลูกสาว ท่ามกลางบรรยากาศความโศกเศร้าเสียใจ โดยนางพรวน แก้วไพฑูรย์ อายุ 56 ปี ผู้เป็นแม่ ยังทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เพราะมีลูกสาวเพียงคนเดียว และเป็นความหวังของครอบครัว ต้องเฝ้ารอร่างอันไร้วิญญาณของลูกสาวอยู่ที่วัดบ้านแยง อ.นครไทย เพื่อจัดเตรียมสถานที่รอรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรมศพค่ำคืนนี้เป็นวันแรก

ด้าน นายอรรถพรรณ ผู้เป็นพ่อ เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งทราบเพียง 1 เดือน ว่าลูกสาวและแฟนหนุ่มที่ก่อเหตุคบหากันเป็นแฟน เนื่องจากเรียนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกันในตัว อ.นครไทย ลูกสาวกำลังเรียนจบชั้น ม.3 ส่วนแฟนหนุ่มเรียนอยู่ชั้น ม.2 ลูกสาวมักจะมารับจ้างเก็บปาล์มที่บ้านของแฟนหนุ่มเป็นประจำ โดยก่อนวันเกิดเหตุเป็นวันปัจฉิมนิเทศลูกสาวได้ขออนุญาตจะไปกินเลี้ยงกับกลุ่มเพื่อน และนอนค้างคืนที่บ้านแฟนอาจจะมีปากเสียงทะเลาะกันตามประสาวัยรุ่น แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับลูกสาวถึงขั้นถูกยิงเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ เนื่องจากลูกสาวถูกยิงในบ้านแต่ศพกลับถูกลากออกมาไว้ที่หน้าประตูหลังบ้าน นอกจากนี้ที่ศพยังพบว่าบริเวณลำคอมีร่องรอยเขียวช้ำเป็นจ้ำถึง 2 แห่ง ซึ่งตนยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นการทำปืนลั่นใส่เองโดยไม่ตั้งใจ หรืออาจจะมีการลงมือทำร้ายร่างกายลูกสาวก่อนจะยิงเสียชีวิต ทั้งนี้จะต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ส่วนศพของลูกสาวจะยังไม่ทำการฌาปนกิจแต่อย่างใด จะต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเป็นการกระทำที่เกิดกว่าเหตุซึ่งเด็กอายุเพียง 14 ปี จะกล้าลงมือทำได้ จึงฝากวิงวอนไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของตนเอง ที่ต้องมาสูญเสียลูกสาวในครั้งนี้ด้วย