"วัชระ"แฉพิรุธ"รถเมล์เอ็นจีวี-รัฐสภาใหม่"

2018-03-10 13:10:58

"วัชระ"แฉพิรุธ"รถเมล์เอ็นจีวี-รัฐสภาใหม่"

Advertisement

"วัชระ"เปิดแถลงแฉ 2 โครงการ "จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี-ก่อสร้างรัฐสภา" เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวในนามส่วนตัวถึงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 489 คันว่า ก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว 2 ครั้ง แต่ก็ไม่มีคืบหน้า โดยการการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีครั้งนี้ นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ประธาน บอร์ด ขสมก.) ได้อ้างว่าที่ประชุมบอร์ด ขสมก.มีมติให้จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันในวงเงิน 4,261 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาเดิมที่เคยประมูลไว้ถึง 461 ล้านบาท



นายวัชระ กล่าวว่า จากการตรวจสอบจากเอกสารการถอดเทปการประชุมบอร์ด ขสมก.พบว่า มีคณะกรรมการบอร์ดเห็นชอบเพียง 2 คน และไม่เห็นชอบถึง 4 คน ดังนั้นจึงเชื่อว่า ข้อมูลที่ออกมาจึงถือว่าเป็นการรายงานข้อมูลเท็จต่อนายกรัฐมนตรีและโกหกประชาชน ซึ่งจะดำเนินการยื่นเอกสารการถอดเทปการประชุมบอร์ด ขสมก. ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ 13 มี.ค.นี้ เพื่อให้ตรวจสอบมติของ บอร์ด ขสมก. ว่าได้มีอนุมัติให้มีการจัดซื้อรถเมล์ลอตนี้จริงหรือไม่ พร้อมทั้งจะเรียกร้องให้พิจารณาปลดนายณัฐชาติออกจากประธานบอร์ด ขสมก. และให้ระงับการตกลงราคาในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากประชาชนจะเสียประโยชน์ไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท ทั้งนี้เชื่ออีกว่า โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีดังกล่าวน่าจะเกี่ยวพันกับผู้มีอิทธิพลและมีการแอบอ้างชื่อนายทหารชั้นผู้ใหญ่ตัวอักษรย่อ ป.ในการดำเนินการในเรื่องนี้





นายวัชระ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบการส่อทุจริตในโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ วงเงิน 1,200 ล้านบาท กำหนดระยะเวลาการก่อสร้าง 900 วัน ตามสัญญา แต่ต่อมาได้มีการขยายเวลาก่อสร้างออกไปอีก 387 วัน ในสมัยนางสายทิพย์ เชาวลิตถวิล เป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งล่าสุดในปัจจุบันที่มีนายสรศักดิ์ เพียรเวช ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการขยายเวลาก่อสร้างออกไปอีก 674 วัน จากก่อนหน้านี้ที่มีการขยายเวลา 400 วัน รวมระยะเวลาที่ได้มีการขยายระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 1,482 วัน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นการขยายเวลาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนจะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับคิดเป็นวันละ 12 ล้านบาท

นายวัชระ กล่าวอีกว่า กรณีนี้อาจจะเข้าข่ายทุจริตในการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสารเทศและการสื่อสาร(ICT) จากเดิมที่ได้มีการตั้งงบประมาณไว้ที่ 3,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันงบประมาณพุ่งสูงถึงเกือบ 8,000 ล้านบาท โดยนายสรศักดิ์ ต้องการใช้วิธีคัดเลือกจากบริษัทเอกชน 3 รายเพื่อให้ดำเนินการในส่วนของ ICT ภายในโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ แต่ทางข้าราชการชั้นผู้น้อยของรัฐสภาจำนวน 18 คน ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว และได้ยื่นหนังสือถึงนายสรศักดิ์ให้ใช้วิธีการเปิดประมูลเพื่อให้มีการแข่งขันอย่างเปิดเผย แต่ปรากฏว่าราชการทั้ง 18 คน ถูกตั้งกรรมการสอบสวน ซึ่งมองว่ามีความไม่เป็นธรรมคาดว่ามีบุคคลที่มีอำนาจเหนือกว่านายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตัวอักษรย่อ ช. ซึ่งเป็นผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง พร้อมกันนี้ยังพบว่า มีข้าราชการในรัฐสภาที่อาจมีพฤติการณ์เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน ดั้งนั้นจึงจะส่งหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบต่อไป




นายวัชระ กล่าวอีกว่า จะยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีในวันจันทร์ที่ 12 มี.ค.นี้ เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และทบทวนไม่อนุมัติงบประมาณจำนวน 8,000 ล้านบาท พร้อมขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อคุ้มครองไม่ให้มีการกลั่นแกล้งข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต