หวานช่วงเทศกาลวาเลนไทน์กันสุดๆสำหรับคู่ของนางเอกสาว"มิน-พีชญา วัฒนามนตรี" ที่ทั้งสองต่างให้ของขวัญแก่กันอย่างหวานชื่น โดยสาวมินได้ให้เป็นแหวนแทนใจจนทำให้หลายคนมองว่าเป็นการตีตราจองกันแล้ว ล่าสุดเจอสาวมินเลยถามถึงเรื่องนี้โดยเจ้าตัวได้เผยว่า
เราช้ากว่าเขาวันหนึ่งค่ะ พอเขาเอาดอกไม้มาให้เราก็แบบยังไม่ได้ซื้ออะไรเลย(หัวเราะ) ที่เลือกซื้อแหวนให้เขาเพราะเรามองว่ามันเก็บได้ เราชอบอะไรที่เก็บมูลค่าไว้ได้ ส่วนที่หลายคนทองว่าเป็นแหวนแทนใจ มองอย่างนั้นเหรอค่ะ(หัวเราะ) มินมองเป็นธุรกิจเฉยเลย เรามองว่าอีกกี่ปีมันก็มีมูลค่า ส่วนเรื่องแสดงความเป็นเจ้าของ จริงๆ เรายังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้นนะคะ แต่ถ้าจะมองมุมนั้นก็ได้ ทุกวันนี้เราไม่ได้ให้ค่าความสำคัญกับข้าวของเงินทองมากกว่าสิ่งที่จริงๆในเรื่องการพัฒนาความสัมพันธ์ควรจะมี ความรัก ความจริงใจ เขาเรียกว่าวัตถุละเอียดค่ะ ของหยาบเราทุกคนอยากได้กันอยู่แล้ว เช่น บ้าน รถ แต่ว่าสุดท้ายมินว่ามันเอาไปไม่ได้ วินาทีสุดท้ายของชีวิต สิ่งที่จะอยู่กับเราจริงๆ คือโมเมนต์หรือประสบการณ์ชีวิตที่เราจริงใจและให้แก่กัน นั่นเป็นสิ่งที่มินคิดมาตลอดค่ะ มองเป็นความจริงดีกว่าค่ะ เราทำงานในวงการมาเกือบ 10 ปีแล้ว เราก็รู้ว่าการให้ความสำคัญกับการดำเนินชีวิตมันคือคนรอบตัวเรา และการที่เราให้มูลค่ากับคนรอบตัวเราว่าเขามีความหมาย
วางอนาคตกันไว้อย่างไรบ้าง?
คุณโอ๊ตก็มีพูดๆ บ้าง แต่เรามองว่าเรามีเป้าหมาย เราก็เป็นแนวมีความฝัน สนุก เป็นเด็กๆ อยากดูแลครอบครัว ถ้าพูดตามตรงยังไม่มีโมเม้นต์อยากแต่งงาน
ยังติดตรงไหนถึงนังไม่อยากแต่งงาน?
จริงๆ เราเป็นคนรักพ่อแม่มาก ตอนนี้ป๊าจะ 60 แล้ว ป๊าสร้างธุรกิจไว้เยอะ เรามีความคิดว่าคนรุ่นเราเป็นมันเป็นรุ่นต่อไปแล้ว อะไรที่ต้องศึกษาเรียนรู้ เดี๋ยวนี้เวลาที่เราจะเอาเวลาของเราไปลงกับอะไรเราก็ค่อนข้างพิถีพิถัน เพราะเราไม่ได้มองแค่ตัวเงินแล้ว เรามองถึงการเรียนรู้ การเติบโต การฝึกฝนในหลายๆ ด้านที่เราจำเป็นต้องรู้ ตอนนี้เราทำอะไรเองทุกอย่างและรู้สึกว่าเราดูและ่แม่ได้แล้ว และพ่อแม่ค่อนข้างคาดหวังว่าเราจะไปสืบต่อธุรกิจ แต่เราเองยังอยู่กับปัจจุบัน ตอนนี้เรามีโอกาสในหลายๆด้าน เรามองว่าเราจะทำอะไรก็ได้ อยู่ที่เราจะทำมันจริงๆหรือเปล่า และเราทำเพื่ออะไร
คุณพ่อคุณแม่อยากให้แต่งงานไหม?
ท่านไม่ได้ซีเรียสเลยค่ะ พี่ชายมินแต่งไปแล้ว ทางคุณพ่อคุณแม่คุณโอ๊ตก็ไม่ถึงกับไฟเขียวนะคะ เขาเรียกว่าอยู่กับปัจจุบัน ให้เกียรติกัน ผู้ใหญ่เขาไม่ยุ่งเรื่องของเรา เขาเชื่อในตัวเรา
ช่วงหลังไม่ค่อยเห็นรูปคู่?
ไม่ค่อยได้ถ่ายมากกว่า บางทีไปกินข้าวสองคนก็สลับกันถ่าย จะถ่ายคู่ได้ไงคะ(หัวเราะ) ก็สบายๆ ไม่หวือหวาหรอก เขาเองเป็นคนยังไงก็ได้
สัญญากับช่องตอนนี้ยังเหลืออยู่ไหม?
ต่อสัญญาไปตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ไม่ต้องกลัวมินจะออกจากวงการหรอก เราสร้างตรงนี้มากับมือและเราก็ยังรักมัน แต่ในเรื่องของการดูแลพ่อแม่ เราก็ต้องมีการบาลานซ์มากขึ้น เพราะพ่อแม่อายุมากขึ้น เราก็รู้สึกว่าเราต้องยืนเพื่อคนที่เรารักได้แล้ว จริงๆวงการ ยังไงก็ไม่ทิ้งหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหนเท่านั้นเอง ปริมาณงานเราคุยกันได้ เป็นเรื่องของความลงตัวเรื่องเวลา อีเว้นต์ถ้าไม่ชนกับอะไรก็สามารถรับได้ เราเน้นคุณภาพมากกว่าเพราะเมื่อก่อนมินรับงานวันละ 4-5 งานก็ทำมาแล้ว มีข้อผิดพลาดก็ไม่เป็นไร มันก็ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่เราไม่อยากให้เกิด ตอนนี้ก็ยังตั้งเป้าละครปีละเรื่องเหมือนเดิมที่เหลือก็ให้สิทธิช่องตัดสินใจ เราได้หมด ขอแค่ทุกอย่างลงตัว เราเคารพทุกภาคส่วนแต่ถ้าบางทีตัวเราไม่พี้อมแล้วจะไปทำให้เขาช้าลงไปอีกเราก็ถอยดีกว่า
ต่อสัญญาอีกกี่ปี?
ต่ออีกนานเลยค่ะ ยังไม่ไปไหนหรอก (หัวเราะ)