โฆษกทำเนียบขาว สร้างความสับสนอีกรอบ เมื่อออกมาแถลงว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ประชุมกับคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ จนกว่าจะเห็นเกาหลีเหนือดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในการปลดอาวุธนิวเคลียร์
ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว แถลงเมื่อวานนี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จะไม่พบหารือกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ จนกว่าเกาหลีเหนือจะดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมและสามารถพิสูจน์ได้เกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ แซนเดอร์ส บอกว่า โสมแดงได้ให้คำมั่นสัญญาครั้งสำคัญที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ ให้สัญญาที่จะหยุดทดลองนิวเคลียร์และขีปนาวุธ สหรัฐจะไม่จัดการประชุม จนกว่าจะเห็นการกระทำที่เป็นรูปธรรมเหมือนสอดคล้องกับคำพูดและสำนวนโวหารของเกาหลีเหนือ
ถ้อยแถลงของแซนเดอร์สเมื่อวานนี้ ทำให้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับข้อตกลงที่จริงจังมากของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่จะประชุมร่วมกับผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งดูเหมือนว่าทำเนียบขาวจะกำหนดเงื่อนไขใหม่ที่ไม่เหมือนกับเมื่อวันก่อน ทั้งนี้ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ แถลงว่า คิม จอง อึน ให้คำมั่นที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่า เกาหลีเหนือให้คำมั่นที่จะปลดนิวเคลียร์ เพื่อจัดการประชุมกับประธานาธิบดีสหรัฐ คิม จอง อึน เพียงให้คำมั่นหยุดทดลองนิวเคลียร์และขีปนาวุธเท่านั้น และเขายอมรับสิทธิของสหรัฐและเกาหลีใต้ในการเดินหน้าซ้อมรบร่วมที่จะมีขึ้นในปลายปีนี้
ถ้อยแถลงของแซนเดอร์สเมื่อวานนี้ ยังเป็นถ้อยแถลงครั้งแรกของทำเนียบขาวในการกำหนดเงื่อนไขการประชุม ในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งในช่วงเย็นวันก่อน แซนเดอร์ส บอกว่า ทรัมป์ จะยอมรับคำเชิญพบหารือกับคิม จอง อึน ตามสถานที่และเวลาที่กำหนด และว่า สหรัฐรอที่จะเห็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
ขณะที่ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี หลายชั่วโมงก่อนที่ทรัมป์จะตกลงเจรจา ว่า สหรัฐยังห่างไกลจากการตกลงที่จะเปิดการเจรจาโดยตรง
ด้านนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า การตัดสินใจของเกาหลีเหนือที่จะพบหารือกับทรัมป์ พิสูจน์ให้เห็นว่า ยุทธศาสตร์ของการโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือ กำลังได้ผล สหรัฐจะไม่ยอมลดลาวาศอก และจะยังคงกดดันจนกว่าจะปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือสำเร็จ