รอง ผบช.ภ.7 เผยไม่รู้จักหนักใจถูกโยงคดีลอตเตอรี่ 30 ล้าน พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง ยันดำเนินการไปตามวัตถุพยานและหลักฐาน
เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. แถลงความคืบหน้าคดีลอตเตอรี่อลเวง 30 ล้านบาท สำนวนการสอบสวนผิดตั้งแต่ต้น และอาจโยงนายตำรวจในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ด้วยนั้น พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค (รอง ผบช.ภ.7 ) ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนและสอบสวนในคดีนี้ กล่าวว่า หากทางผู้บังคับบัญชา มีการตั้งกรรมการสอบสวนสวนทางวินัย ตนเองในฐานะที่เคยเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนก็พร้อมจะไปชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ยืนยันว่า ที่ผ่านมา หลังจากได้รับสำนวนการสอบสวนต่อจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว ก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอนตามกระบวนการสอบสวน ในการสอบปากคำพยาน ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ในการสรุปสำนวนลงความเห็น เพื่อส่งต่อให้กับอัยการ แต่กระบวนการต่างๆ ยังไม่แล้วเสร็จ ก็มีการโอนสำนวนมายังกองปราบปราม
เมื่อถามว่าผลการสอบสวนของกองบังคับการปราบปราม และตำรวจภูธรภาค7 ที่มีความเห็นกันไปคนละทางเกิดจากอะไร มีข้อบกพร่องในจุดไหน รอง ผบช.ภ.7 บอกว่า คงไม่สามารถไปก้าวล่วงการทำงานของตำรวจกองบังคับการปราบปรามได้ และที่สำคัญสำนวนการสอบสวน ก็ถูกโอนมาแล้ว จึงไม่อยากขอพูดถึง ให้เป็นอำนาจการสอบสวนของตำรวจกองบังคับปราบปราม ในการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่ารู้สึกหนักใจหรือไม่หากถูกโยงมาถึง จนถูกตั้งกรรมการสอบสวนด้วย พล.ต.ต.กฤษณะ ย้ำว่า ไม่ได้กังวลแต่อย่างใด เพราะได้ดำเนินการสอบสวนตามอำนาจ และสำนวนที่รับมา ก็นำมาสอบสวน เพื่อให้พยานหลักฐานครบถ้วนในทุกประเด็น โดยยืนยันว่า ได้ดำเนินการไปตามวัตถุพยานและหลักฐาน ตามคำให้การของครูปรีชา
ขณะที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความของ ร.ต.ท.จรูญ ได้โฟสต์เฟซบุ๊กตั้งคำถามหลัง ผบ.ตร.แถลงข่าวรอบที่ 2 ในคดีหวย 30 ล้าน โดยระบุว่า สรุปว่าผู้การสุทธิกระทำความผิดโดยสุจริตเหรอ อย่างไรก็ตาม มีชาวโซเชียลจำนวนมากไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก